เฉาก๊วย เป็นเมนูของหวานยอดฮิตที่ทำมาจากต้นเฉาก๊วยผสมกับแป้ง มีเนื้อสัมผัสคล้ายเจลลี่สีดำและมีความเหนียวนุ่ม อร่อย ทานง่าย แถมยังมีประโยชน์ช่วยคลายความร้อนและดับกระหายได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้านำไปรับประทานพร้อมกับน้ำแข็งเย็น ๆ ในน้ำเชื่อม หรือใส่น้ำตาลทรายแดงและนมสดรสจืดเข้าไปด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มความอร่อยมากขึ้นอีกด้วย จึงทำให้เฉาก๊วยกลายเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่นิยมทั้งในครัวเรือนและตามร้านอาหารอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ประโยชน์ของเฉาก๊วย เฉาก๊วย เป็นขนมหวานที่ทำมาจากต้นเฉาก๊วยตากแห้ง ซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งที่พบมากในประเทศจีน อยู่ในตระกูลเดียวกับต้นมินต์ หรือพืชจำพวกต้นสะระแหน่ มีสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพรช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้มากมาย โดยเฉพาะช่วยแก้ร้อนใน ดับกระหายน้ำได้อย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการไข้ แก้ตัวร้อน และช่วยส่งผลที่ดีต่อคนเป็นเบาหวานได้อีกด้วย แต่ก็มีข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรทานพร้อมน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลทรายแดงผสมมากจนเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นควรทานคู่กับหญ้าหวานหรือน้ำตาลหล่อฮังก๊วยแทน รับรองว่าจะได้ประโยชน์อย่างครบถ้วนอย่างแน่นอนค่ะ การเตรียมต้นเฉาก๊วย สำหรับการทำเฉาก๊วย ต้นเฉาก๊วยหลังจากเก็บจากแปลงจะต้องนำมาล้างทำความสะอาดเสียก่อน แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง ก่อนที่จะมัดรวมกันเป็นก้อนเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บ และการขนส่ง ต้นเฉาก๊วยที่จะนำมาต้มน้ำ โดยทั่วไปสามารถหักเป็นชิ้นใส่ในหม้อต้มได้เลย แต่หากต้องการให้ได้น้ำเฉาก๊วยที่เข้มข้นกว่าแนะนำให้สับเป็นชิ้นเล็กๆก่อนะคะ เพื่อเตรียมสำหรับการทำเฉาก๊วย เหนียวหนึบ สีดำ 👉👉 ไปดูขั้นตอนการทำกันเลยค่ะ – หลังจากเตรียมต้นเฉาก๊วยเสร็จ ให้นำต้นเฉาก๊วยแห้งมาล้างทำความสะอาด – นำต้นเฉาก๊วยลงต้มในน้ำ อัตราส่วนเฉาก๊วยกับน้ำที่ 1:25-50 – ต้มเคี่ยวน้ำเฉาก๊วยนาน 3-5 ชั่วโมง จนน้ำเฉาก๊วยมีลักษณะข้นเป็นเมือก และมีสีดำใส – ทำตักต้นเฉาก๊วยขึ้นมา แล้วใช้มือขยำหรือนวดต้นเฉาก๊วย เพื่อให้เมือกหลุดออกลงหม้อต้ม – แยกกากต้นเฉาก๊วยออกจากน้ำต้ม และตั้งทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ตะกอน และดินตกลงด้านล่างหม้อ – ทำการกรองน้ำต้มเฉาก๊วยด้วยผ้าขาวบาง 1-2 ครั้ง โดยค่อยๆเทเบาๆ เพื่อไม่ให้ตะกอนด้านล่างฟุ้งขึ้นมา – นำน้ำต้มเฉาก๊วยที่มีลักษณะเหนียวข้นตั้งทิ้งไว้ให้เย็นจนได้เฉาก๊วยที่มีลักษณะก้อนอ่อนนุ่ม – หากต้องการความเหนียว และแข็งที่มากขึ้น ให้เติมโซเดียมไบคาร์บอเนตก่อนนำไปต้มอีกครั้งหรือใส่ในขณะที่น้ำเฉาก๊วยยังร้อน – หากต้องการเพิ่มความแข็ง และเหนียวขึ้นมาอีกให้นำแป้งท้าวยายหม่อมหรือแป้งอ่อน เช่น แป้งมันสำปะหลังลงต้มผสม โดยนำน้ำต้มที่กรองเสร็จแล้วลงต้มผสมกับแป้งนาน 15 นาที พร้อมกับกวนอย่างต่อเนื่อง จนได้เมือกเหนียวดำ และเป็นมันเงา ก่อนเทใส่แม่พิมพ์หรือตั้งให้จับตัวเป็นก้อนในหม้อ เมนู เฉาก๋วยน้ำเชื่อม ยอดฮิต ทำเองง่ายๆ ที่บ้าน อย่างที่รู้กันดีว่า เฉาก๊วย ทำมาจากต้นเฉาก๊วย ซึ่งไม่ต้องทำเองก็ได้เพราะมีขายแบบพร้อมกินทั้งเฉาก๊วยโบราณหรือเฉาก๊วยทรงเครื่อง แต่สำหรับคนที่อยากกินเมนูเฉาก๊วยอื่น ๆ ก็คงต้องไปซื้อก้อนเฉาก๊วยมาทำเองแล้วล่ะ วันนี้เราขอนำเสนอวิธีทำเฉาก๊วยน้ำเชื่อม หวานเย็น ชุ่มฉ่ำ มาให้ทุกคนได้ลองทำกัน
เมนูเฉาก๊วยน้ำเชื่อม สูตรจาก คุณเนินน้ำ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ สูตรนี้ใช้ผงเฉาก๊วยต้มกับน้ำเปล่าแล้วเทใส่พิมพ์และหั่นตามชอบ หรือหากใครมีเฉาก๊วยที่ทำเองไว้แล้ว ก็ใช้แทนกันได้ค่ะ จากนั้นก็แค่ราดน้ำเชื่อมและใส่น้ำแข็ง เรียกได้ว่าเป็นเมนูดั้งเดิม แต่ยังคงความอร่อย ไม่แพ้ใคร ไปดูส่วนผสมกันเลย
ที่มา https://www.sgethai.com/article/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A2
0 Comments
ขิง เป็นพืชผักที่กำลังอยู่ในระยะที่ทำรายได้ให้แก่ชาวสวนชาวไร่ในประเทศไทยมาก ทั้งนี้ เพราะเรามีอุตสาหกรรมทำขิงดองส่งขายแก่ประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ขิงที่ปลูกได้นี้มีคุณภาพดีตรงกับความต้องการของตลาด ประเทศไทยสามารถใช้พื้นที่ในการปลูกขิงได้ทุกภาค ภาคใต้ปลูกในจังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ภาคเหนือปลูกในจังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร นอกจากการขุดหัวขิง (ลำต้นใต้ดิน) มาทำอุตสาหกรรมขิงดองแล้ว ซึ่งหัวขิงที่ใช้ทำขิงดองนี้สามารถใช้ได้ทั้งในระยะอ่อนและแก่ หัวขิงยังใช้เป็นผักสด โดยเฉพาะขิงอ่อน นำมารับประทานโดยใช้ ผัด ต้ม หัวขิงแก่นำมาปรุงอาหารได้เช่นกัน หัวขิงแก่ยังสามารถทำเป็นขิงแห้ว แล้วนำไปบดทำเป็นชาขิง และเป็นสมุนไพรใช้เป็นส่วนผสมของยาหลายชนิด โดยเฉพาะยาที่เกี่ยวกับการแก้โรคลำไส้ ลมในท้อง ท้องอืดแน่น และยังมีสรรพคุณช่วยทำให้เลือดลมเดินสะดวก ขิงพื้นเมืองที่ไทยเราปลูกกันมานานมีขิงตาแดง คือ ปลายหน่อหรือตาที่งอกออกจะเต่ง แดง บางทีเรียกว่าพันธุ์นครปฐม เพราะเดิมปลูกมากที่นั่น ส่วนอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า ขิงตาขาว คือปลายตา ที่งอกออกมาจะเป็นสีขาว ปลูกมากทางสงขลา ดำเนินสะดวก บางทีเรียกว่าพันธุ์ดำเนินสะดวก ต่อมาเมื่อการปลูกขิงทำมากขึ้น จึงได้นำเอาพันธุ์ของไต้หวันเข้ามา เพราะพันธุ์นี้เป็นที่ต้องการของตลาดญี่ปุ่น พันธุ์ไต้หวันนี้ หัวใหญ่ กลิ่นไม่ฉุนจัด เริ่มมาปลูกกันมากที่ปากช่อง ปัจจุบันปลูกกันแพร่หลายในพื้นที่ปลูกขนาดใหญ่ เนื่องจากขิงนั้น เราปลูกเพื่อเอาลำต้นใต้ดินและเวลาเก็บเกี่ยวต้องขุดเอาส่วนใต้ดิน ดังนั้น ดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนปนทราย เพื่อสะดวกในการเก็บขิง การเตรียมดิน ควรใส่ปุ๋ยคอกและปูนขาวด้วย ดินต้องมีความอุดมสมบูรณ์สูง จึงจะได้หัวขิงที่ใหญ่ ขั้นตอนการปลูกขิง เบื้องต้น มีดังต่อไปนี้-การชำขิง นิยมนำแม่พันธุ์ขิงที่ได้มาทำการ ชำขิง เสียก่อน เลือกวางที่เหมาะสม วางขิงซ้อนกัน เรียงให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยพยายามอย่าให้พื้นข้างล่างอับทึบเกินไป -เอาฟางหรือกระสอบคลุมทับไว้ เอาน้ำพรมให้มีความชื้นอยู่เสมอ ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือนจะมีหน่องอกออกมา แนะนำให้ใช้ กระถางผ้า ผลิตจากผ้าไฟเบอร์ชนิดพิเศษไม่เกิดรา ทนต่อแสง UV ไม่กรอบ. ลดอุณหภูมิบริเวณราก ไม่ร้อนระอุเหมือนกระถางพลาสติก ทำให้รากเย็น เดินได้ไว ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีมากเมื่อปลูกในกระถางผ้า ของ SGETHAI ราคาเริ่มต้นเพียง 15 บาท แล้วคุณจะลืมกระถางพลาสติกไปเลย การตัดแบ่งแง่งขิง เพื่อใช้ในการปลูก นิ้วเศษๆ จะให้น้ำ 2-3 วัน/ครั้ง ระยะนี้ขิงจะอายุได้ประมาณ 2 เดือน ควรจะทำการพูนโคน คือเอาดินบนลูกฟูกลงมากลบขิง จะทำให้แง่งขิงขาวอวบ ในการพูนโคน ควรทำโดยความระมัดระวัง อย่าให้เครื่องมือโดนแง่งขิง ควรใช้เครื่องมือลักษณะคล้ายพาย โกยดินลงกลบ ห้ามใช้จอบหรือเสียม
-ข้อควรระวัง หากพบว่าแปลงปลูกมีน้ำท่วมขัง ให้รีบระบายน้ำออกทันที และให้เปิดวัสดุที่ใช้คลุมแปลงออก ปล่อยให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับแสงแดดเต็มที่ จะช่วยลดปัญหาโรคเน่าของขิงได้ การเก็บเกี่ยว -ก่อนเก็บเกี่ยวแง่งขิงควรรดน้ำในแปลงปลูกให้ชุ่ม แล้วใช้มือถอนต้นขิงขึ้นตรงๆ เพื่อไม่ให้แง่งขิงขาด อายุการเก็บเกี่ยวสำหรับขิงอ่อนประมาณ 5-7 เดือน นับจากวันปลูกลงแปลง โดยขิงอ่อน จะเก็บได้นานไม่เกิน 7 วัน ผลผลิตขิงอ่อนจะได้ประมาณ 4 ตัน/ไร่ - ถ้าเก็บเกี่ยวขิงแก่ จะต้องใช้เวลาให้ขิงมีอายุ 11-12 เดือน หลังจากปลูกลงแปลง โดยขิงแก่สามารถใช้ผผลิตประมาณ 8 ตัน/ไร่ และมีอายุการเก็บได้นานประมาณ 3 เดือน Cr.thaiquote.org วันนี้เราจะมาพูดว่า การถนอมอาหาร ด้วยกล้วย เนื่องจากวิถีชีวิตคนสมัยนี้เปลี่ยนไปมาก ต้องการความเร่งรีบเพิ่มขึ้นมาก วิธีการรับประทานอาหารอาจจะมีการเปลี่ยนไปบ้าง ซึ่งหลายๆคนอาจจะทำอาหารไว้ แล้วนำมาอุ่นกินในภายหลัง หรือ เพื่อความประหยัดก็อาจจะมีการเก็บของที่ทานไม่หมดไว้รับประทานในมื้อถัดไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะพบปัญหาว่าอาหารไม่สามารถเก็บได้นานพอ เพราะฉะนั้น วันนี้เราจึงอยากจะมาให้ความรู้ว่า ทำไมอาหารถึงเสีย ทำไมอาหารถึงรสชาติเปลี่ยนไป และ เราก็ยังอยากเสนอ วิธีการถนอมอาหาร ทำให้อาหารเราสามารถเก็บได้นานมากขึ้นถึง 3 เท่า (แล้วแต่ชนิดอาหาร) ด้วยการใช้วิธีซีลสูญญากาศนั่นเอง วิธีเก็บกล้วยให้อยู่ได้นาน สดอร่อย ไม่เน่าเร็ว สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อกลับถึงบ้านก็คือ ให้รีบนำกล้วยออกจากถุงพลาสติก เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพราะความชื้นภายในถุงบวกกับอากาศที่ร้อนจะทำให้กล้วยสุกเร็วและเน่าเร็วค่ะ วิธีเก็บกล้วยแบบไม่ใส่ตู้เย็น 1.เก็บกล้วยให้พ้นแสง พยายามอย่าให้กล้วยโดดแดด จะทำให้สุกช้าลง 2. ตัดกล้วยออกมาจากขั้ว แล้วใช้พลาสติกแรป หรือถุงพลาสติกห้อคลุมขั้วกล้วยให้มิด เพื่อไม่ให้อากาศเข้า 3. ใช้มีดปาดบางๆ ที่ขั้วกลวยทุกวัน จะทำให้กล้วยสุกช้าลง 4. ต้มน้ำให้เดือด แล้วนำไปเทใส่กาละมังผสมกับน้ำธรรมดาจนได้น้ำอุ่น (อุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส) แล้วนำกล้วยทั้งหวีไปแช่ในน้ำอุ่น เป็นเวลา 10 นาที แล้วนำกล้วยมาแขวนให้แห้ง จะสามารถยืดอายุกล้วยได้ 8-10 วัน วิธีเก็บกล้วยแบบใส่ตู้เย็น1. วิธีเก็บกล้วยแก่จัดเปลือกสีเขียว : ให้ตัดกล้วยออกเป็นส่วนๆ ประมาณ 3-4 ลูก แล้วแต่ขนาดหวี โดยตัดให้ติดขั้วด้วย แล้วนำหนังสือพิมพ์มาห่อกล้วยแต่ละส่วนให้มิด จากนั้นนำกล้วยไปใส่ถุงพลาสติกอีกชั้น แล้วนำไปเก็บในตู้เย็น นำออกจากตู้เย็น 2-3 วันก่อนทาน กล้วยจะค่อยๆ กลับมาสุกเอง
2. วิธีเก็บกล้วยสุก : 2.1 ตัดกล้วยออกจากหวีแยกทีละลูก อย่าให้ติดขั้ว แล้วห่อกล้วยทั้งลูกด้วยพลาสติกแรป แล้วนำกล้วยไปแช่ตู้เย็น 2.2 ตัดกล้วยออกจากหวีแยกทีละลูก อย่าให้ติดขั้ว แล้วนำกล้วยใส้ถุงพลาสติก ปิดฝาถุงให้มิดอย่าให้อากาศเข้าได้ แล้วนำกล้วยไปแช่ตู้เย็น 2.3 นำกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษ A4 มาห่อกล้วยก่อน 1 ชั้น แล้วนำกล้วยไปใส่ถุงพลาสติกแช่ตู้เย็น ในช่องผัก จะสามารถเก็บรักษากล้วยให้สดใหม่ได้นานเป็นเดือน ศูนย์รวม ถุงซีลสูญญากาศ ถุงซีลสุญญากาศ แบบเรียบ ลายนูน ลดราคากว่า 30% โดยถุงซีลจาก SGE คุณภาพดี ราคาโรงงานมี จำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง แนะนำดูรีวิวจากลูกค้าที่ซื้อใน Shopee ได้ หญ้าเนเปียร์ (Napier Grass) จัดเป็นหญ้าอาหารสัตว์ที่นิยมปลูกมาก เนื่องจาก ลำต้น และใบมีขนาดใหญ่ และมีคุณค่างทางอาหารสัตว์สูง รวมถึงสามารถเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถเก็บเกี่ยวต้นได้ตลอดทั้งปี และเก็บเกี่ยวได้นาน 5-7 ปี ต่อการปลูก 1 ครั้ง หญ้าเนเปียร์ (Napier Grass) คืออะไร? หญ้าเนเปียร์หรือ หญ้าบาน่า จัดเป็นหญ้าอาหารสัตว์ที่นิยมปลูกมาก เนื่องจาก ลำต้น และใบมีขนาดใหญ่ และมีคุณค่างทางอาหารสัตว์สูง รวมถึงสามารถเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถเก็บเกี่ยวต้นได้ตลอดทั้งปี และเก็บเกี่ยวได้นาน 5-7 ปี ต่อการปลูก 1 ครั้ง หญ้าเนเปียร์หรือหญ้าบาน่า เป็นหญ้าที่เติบโตได้ดีในเขตร้อน เป็นพืชที่มีอายุหลายปี ลักษณะลำต้นเป็นกอ ตั้งตรง และขยายพันธุ์ด้วยท่อนพันธุ์เหมือนต้นอ้อย หญ้าเนเปียร์นั้นมีหลายสายพันธุ์ โดยหญ้าเนเปียร์ธรรมดาและเนเปียร์ลูกผสม เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงถึง 4 เมตร อย่างไรก็ตามหญ้าเนเปียร์จะมีการแตกกอมากกว่า มีส่วนของใบเยอะกว่าและออกดอกก่อนพันธุ์อื่น ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ชนิดและพันธุ์หญ้าเนเปียร์ มีอะไรบ้าง?
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum King grass ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นสูง แตกกอง่าย ใบและลำต้นมีขน ให้ผลผลิตต่อไร่สูง 10-60 ตัน/ไร่/ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และน้ำ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum cv. Mott ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นเตี้ย แตกกอง่าย เป็นพุ่ม ใบ และลำต้นมีขน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum x pennisetum americanum พันธุ์ดั้งเดิม : หญ้าเนเปียร์ยักษ์ และหญ้าไข่มุก หน่วยงานพัฒนาสายพันธุ์ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ โคราช กรมปศุสัตว์ ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นสูงใหญ่ เหมือนเนเปียร์ยักษ์ ลำต้นอวบ และออกเขียวอ่อน ใบ และลำต้นไม่มีขน ลดการคันขณะเก็บเกี่ยว ให้ผลผลิตเหมือนกับหญ้าเนปียร์ยัก ผลผลิตต่อไร่สูง 10-60 ตัน/ไร่/ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และน้ำ ประโยชน์ของหญ้าเนเปียร์1. ใช้ปลูกเพื่อเป็นอาหารสัตว์ โดยเฉพาะโคเนื้อ โคนม และกระบือ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการให้กินสด และการทำหญ้าหมัก 2. ใช้เป็นชีวะมวล สำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า 3. ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน 4. ลำต้นใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ 5. ลำต้นนำมาสับ และอัดเป็นแท่ง สำหรับเป็นเชื้อเพลิงหุงทำอาหาร 6. หญ้าเนเปียร์มีโปรตีนสูง และให้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าหญ้าทุกสายพันธุ์ เหมาะสำหรับใช้เป็นอาหารสำหรับวัวขุน โคขุน และวัวชนทุกระยะ โปรโมชั่นวันนี้ สแลนกันแดด ม้วนละ 645 บาท เท่านั้น มีทั้งสีดำ และ สีเขียว สแลนกันแดดของเรา เหนียว ทนทาน ไม่ขาดง่าย ใช้งานได้นาน มีให้เลือกหลากหลายไซต์ตอบโจทย์การใช้งานทั้ง เกษตร ไซต์งาน โรงจอดรถ
การหมักหมูถือเป็นพื้นฐานในหลาย ๆ เมนูยอดฮิตของชาวไทย ไม่ว่าจะหมูกระทะ, หมูทอด, หมูย่าง ตลอดไปจนถึงหมูปิ้ง ก็ล้วนแล้วแต่จะต้องผ่านกรรมวิธีการหมักทั้งนั้น เคล็ดลับความอร่อยของมื้ออาหารก็ต้องโดนเมนูของย่างแซ่บๆ ไว้กินกับส้มตำ ลาบ น้ำตก สิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้นั่นก็คือ คอหมูย่าง รสเด็ดกับน้ำจิ้มแซ่บๆ เป็นเมนูที่ทำกินเป็นกับแกล้ม แถมทำง่ายอีกด้วย สูตรหมักคอหมูย่างให้อร่อยเด็ดมีส่วนผสมอะไรบ้างเราไปดูกันเลย ก่อนเริ่มหมักหมู
สูตรหมูย่างนมสดวิธีทำ นำรากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกให้ละเอียด จากนั้นนำ น้ำตาลทราย เกลือป่น ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน นวดไว้ประมาณ 8-10 นาที จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไป นำไปพักในตู้เย็น 30 นาที หรือข้ามคืน นำหมูที่หมักไว้มาเสียบใส่ไม้ (เคล็ดลับ : นำไม้เสียบหมูไปแช่น้ำข้ามคืน จะช่วยลดการไหม้ของไม้ย่างหมูได้) นำหมูไปย่างบนเตา หมั่นคอยดู พอด้านที่สัมผัสความร้อนเริ่มเหลืองแล้วให้พลิกเอาอีกด้านลง พอหมูอีกด้านเริ่มเหลืองก็พลิกกลับ ปิ้งจนหมูสุกทั้งสองด้าน พร้อมเสิร์ฟ สูตรหมูย่าง (สำหรับทำขาย)วิธีทำ แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นหนาประมาณ ½ ซม. ความกว้างประมาณ 4-5 ซม. ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ หรือหั่นตามความถนัด โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดจนละเอียดเข้าด้วยกัน ผสมเครื่องที่โขลกไว้กับน้ำตาลมะพร้าว กะทิ 1 ถ้วยตวง ส่วนกะทิที่เหลืออีก ½ ถ้วยเก็บไว้ใช้ทาตอนย่าง ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส แป้งข้าวโพด และไข่แดง คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลายดี จึงนำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่น้ำมันพืชลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป เมื่อหมักหมูทิ้งไว้ครบเวลาแล้ว นำเนื้อหมูออกจากตู้เย็นมาเสียบด้วยไม้ นำน้ำที่เหลือจากหมักหมูไปผสมกับกะทิที่เหลือให้เข้ากัน เตรียมไว้ เปิดเตาสำหรับปิ้งหมูให้ร้อนก่อน ใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นนำหมูขึ้นปิ้งบนเตา หมั่นคอยดู พอด้านที่สัมผัสความร้อนเริ่มเหลืองแล้วให้พลิกเอาอีกด้านลง แล้วใช้แปรงจุ่มส่วนผสมกะทิที่ผสมไว้ทาให้ทั่วด้านบน พอหมูอีกด้านเริ่มเหลืองก็พลิกกลับมาทาซอสอีกครั้ง ปิ้งจนหมูสุกทั้งสองด้าน แต่ไม่ควรปิ้งให้แห้ง เพราะน้ำในเนื้อหมูจะระเหยไปกับความร้อน ทำให้หมูเหนียวและแข็ง พอสุกแล้ว นำเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มตามชอบ สำหรับหลาย ๆ ท่านที่สนใจตัวช่วยดี ๆ ไว้เป็นตัวช่วยในถนอมอาหาร และช่วยให้การหมักหมูมีรสชาติดีขึ้นกว่าการหมักธรรมดาๆ เครื่องแพ็คสูญญากาศ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่ใช้ครัวเรือน ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรม ให้เลือกสรรค์ หลากหลายแบบ หรือใครที่มองหา ถุงซีลสูญญากาศ เราก็มีให้คุณได้เลือกเหมือนกัน รับรองสินค้าดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พร้อมบริการหลังการขายที่ประทับใจอย่างแน่นอน!!
สแตนเลส หากลองมองดู รอบๆ ตัวเราในปัจจุบัน จะเห็นว่า อุปกรณ์เครื่องครัว (Kitchenware) เครื่องใช้ และภาชนะต่าง ๆ ที่เราใช้กันอยู่นั้นมักทำมาจากสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นส่วนใหญ่ ด้วยคุณสมบัติ ที่มีความแข็งแรง ทนต่อการใช้งาน ไม่แตกหักง่ายเหมือนแก้ว หรือกระเบื้อง ทั้ง หม้อ กระทะ แก้วน้ำ จานชาม หรือแม้แต่ ช้อนส้อม ที่เราต้องนำเข้าปากกันในทุกๆ วัน แล้วเราจะมั่นใจได้หรือว่า สแตนเลสที่นำมาใช้นั้น เป็นสแตนเลสเกรดอาหาร (Stainless Food Grade) ที่ปลอดภัยต่อการบริโภคจริง ๆ ซึ่งวันนี้จะพามาทำความรู้จักกับ สแตนเลส304 (Stainless 304) ที่เราใช้การทำอาหารกัน ในแบบภาษาชาวบ้านๆ ที่ใครอ่าน ก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยากและยังสามารถนำไปใช้ ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ อุปกรณ์เครื่องครัว ไปจนถึงเครื่องแปรรูปอาหาร วัตถุดิบต่างๆ ในท้องตลาดได้อีกด้วย สแตนเลส 304 คืออะไร“สเตนเลส 304 ” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ “เหล็กกล้าไร้สนิม” เป็น ศัพท์ทั่วไปที่ใช้เรียกเหล็กใน กลุ่มที่มีความต้าน ทานการกัดกร่อนสูง สเตนเลสเป็นโลหะผสมระหว่างเหล็กและคาร์บอน ซึ่งส่วนประกอบจะมีปริมาณคาร์บอนต่ำ มีโครเมียม เป็นส่วนผสมหลัก ประมาณ 10.5 % หรือมากกว่าทำให้เกิดการสร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ (chromium oxide film : CrO2 หรือเรียกว่า passive film) ที่มองไม่เห็นเกาะติด แน่นอยู่ที่ผิวหน้าทำให้เหล็กกล้า มีความต้านทานการกัดกร่อน ฟิลม์ปกป้อง นี้จะมีความบางเทียบเท่ากับวางกระดาษ 1 แผ่นบนตึกสูง 20 ชั้น ถ้าฟิล์มที่ผิวหน้านั้น ถูกทำลายไม่ว่าจากแรงกล สารเคมี หรือออกซิเจนที่มีอยู่ในบรรยากาศ แม้จำนวนน้อยนิดจะเข้าทำปฏิกิริยากับโครเมียม สร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ทดแทน ขึ้น ใหม่ด้วยตัวมันเอง คุณสมบัติของสแตนเลส 304ถือว่าเป็นเกรดของสแตนเลสที่เหมาะสม สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการใช้ประโยชน์ในงานผลิตเครื่องครัว ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน แข็งแกร่ง ทำความสะอาดง่าย ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร คุณสมบัติของสแตนเลส 304 ประกอบไปด้วย ธาตุเหล็ก คาร์บอน โครเมี่ยม และนิกเกิล เรามักจะเห็นตัวเลขกลุ่มหนึ่งปรากฏต่อท้ายชื่อสแตนเลส เช่น 18-8 หรือ 18-10 ซึ่งทั้งสองชนิดนี้ เป็นสแตนเลสในซีรี่ของ 304 เหมือนกัน ตัวเลขดังกล่าว เป็นตัวเลขที่บอกอัตราส่วนของธาตุโครเมี่ยมและธาตุนิกเกิล ซึ่งมีความสำคัญในการสร้างคุณสมบัติพิเศษในเนื้อสแตนเลส เหล็กเป็นส่วนผสมหลักในสแตนเลส มีองค์ประกอบอยู่มากกว่า 50 % ส่วนคาร์บอน มีอยู่ประมาณ 0.8% เพื่อช่วยให้เนื้อโลหะมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น
โครเมี่ยม เป็นตัวจับกับออกซิเจนในอากาศและในความชื้น ทำให้เกิดเป็นชั้นฟิล์มบางๆเคลือบผิวของแสตนเลส ช่วยป้องกันพื้นผิวไม่ให้เกิดการกัดกร่อน สึกหรอ นอกจากนี้ มันยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชิ้นงานอีกด้วย เมื่อเรามีการขัดถู ทำให้ชั้นฟิล์มนั้นเสียหายไป ปฏิกิริยาดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นใหม่แบบไม่รู้จบ เราจึงยกให้เครื่องครัวสแตนเลส 304 เป็นประเภทของเครื่องครัวที่ยิงใช้ยิ่งแกร่ง ในส่วนของนิกเกิล ซึ่งทำหน้าที่หลักทางเคมี คือการช่วยให้โลหะสแตนเลสมีความเสถียรมากขึ้น ไม่ทำปฏิกิริยากับสารใดใด และยังช่วยให้เครื่องครัวแสตนเลสเกิดความเงางามน่าใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ในแสตนเลส 304 ชนิด 18-10 ซึ่งเป็นงานสแตนเลสที่มีความเงากว่า 18-8 จึงนิยมใช้ในการทำช้อน ส้อม และมีดนั่นเอง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราควรรู้ ก่อนที่จะเลือกใช้เครื่องครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อดี ข้อเสียของหม้ออลูมิเนียม กับ สแตนเลส และเรายังต้องรู้ให้ลึกถึง คุณสมบัติของสแตนเลส 304 เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้งานแสตนเลสได้อย่างเหมาะสมกับงาน เพื่อความคุ้มค่า และความปลอดภัยของผู้ใช้งานทุกคน รวมถึงคนในครอบครัวที่เรารักอีกด้วย โปรตีนเกษตรหรือเนื้อเทียม (Textured Vegetable Protein : TVP) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดย สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตจากแป้งถั่วเหลืองพร่องไขมัน 100% จึงมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งเป็นโปรตีนจากพืชถึง 50% โดย โปรตีน จากถั่ว-เหลืองดังกล่าวถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากมีกรดอะมิโนที่จำ-เป็นต่อร่างกายครบทุกตัว โดยเฉพาะมีไลซีน (Lysine) สูง นอกจากนี้โปรตีนเกษตรยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ โปรตีนเกษตร คืออะไร ? ทำมาจากอะไร ?เว็บไซต์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ระบุว่า โปรตีนเกษตร เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดย สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตจากแป้งถั่วเหลืองพร่องไขมัน 100% จึงมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งเป็นโปรตีนจากพืชถึง 50% โปรตีนเกษตร ทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้หรือไม่ ?โปรตีนเกษตรจากถั่วเหลืองดังกล่าว ถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบทุกตัว โดยเฉพาะมีไลซีน (Lysine) สูง และยังมีสารอาหารอื่น ๆ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก ไนอะซิน วิตามินบี 1 และ บี 2 อีกด้วย นอกจากนี้โปรตีนเกษตรยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ โปรตีนเกษตรทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้จริงหรือ? ผลิตจากถั่วเหลือง ทำให้โปรตีนเกษตรมีโปรตีนสูงถึง 49.47% มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน โดยเฉพาะ ไลซีน ซึ่งพบในปริมาณสูงมาก และยังให้คาร์โบไฮเดรตถึง 37.20%, ไขมัน 0.26%, มีไฟเบอร์ 1.10% และยังมีวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอย่าง โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แคลเซียม, เหล็ก, โซเดียม และวิตตามินบีอีกด้วย คุณภาพโปรตีนที่ได้จากพืชนี้พบว่ามีค่า PER ใกล้เคียงกับเคซีนในน้ำนมวัวเลยทีเดียว รู้ไหม? กินเจก็ไม่ทำให้ร่างกายขาดโปรตีน หากรู้จักเลือกกินอาหารให้ถูก เน้นไปที่อาหารที่ทำจากเต้าหู้ ผัก เห็ดต่าง ๆ ผลไม้และโปรตีนเกษตร หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำมาจากอาหารเลียนแบบเนื้อสัตว์ เพราะทำมาจากแป้งล้วน ๆ เลี่ยงอาหารประเภทผัด ๆ ทอด ๆ เท่านี้เราก็จะได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่โดยไม่ต้องเบียดเบียนชีวิตสัตว์ เเถมไม่อ้วนด้วย กินเจสวย ๆ ไปจนครบ 9 วันได้อย่างไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว แนะนำ 4 เมนูโปรตีนเกษตร ทำกินง่าย ได้คุณค่าทางอาหาร วัตถุดิบสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับคนกินเจและมังสวิรัติบริสุทธิ์ โปรตีนเกษตรเป็นอาหารอย่างแรกที่หลายคนนึกถึง เพราะเมนูโปรตีนเกษตร หรือเนื้อสัตว์เทียม เป็นโปรตีนจากพืชที่ถูกคิดค้นขึ้นมาแทนเนื้อสัตว์ปกติ ทำให้คนกินเจ หรือมังสวิรัติได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่ขาดสารอาหารสำคัญอย่างโปรตีนนั่นเอง แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าจะทำ เมนูโปรตีนเกษตร อะไรดี ไปดูกัน 👉 โปรตีนเกษตรผัดกะเพรา เมนูโปรตีนเกษตรทำง่าย อร่อยได้ในไม่กี่ขั้นตอน เอาใจคนชอบกินอาหารรสจัดจ้านสไตล์คนไทย ที่สำคัญยังเป็นเมนูเจ เพราะเราไม่ใส่กระเทียม วัตถุดิบ โปรตีนเกษตรลวกจนนิ่ม 1 ถ้วย ใบกะเพรา ตามชอบ พริกจินดาแดงสับละเอียด 2 เม็ด ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรสเห็ดหอม 1 ช้อนชา น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันมะพร้าว เมื่อน้ำมันร้อนให้ใส่พริกลงไปผัด ใส่โปรตีนเกษตรและเครื่องปรุงทั้งหมดลงไปผัดจนสุก ตามด้วยใบกะเพรา ผัดจนหอม ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ 211124-Content-รู้จักกับโปรตีนเกษตร-คืออะไร-ทำเมนูอะไรได้บ้าง04 👉 โจ๊กโปรตีนเกษตรเห็ดหอม เมนูอ่อน ๆ กินง่าย สบายท้อง เหมาะสำหรับทำเป็นอาหารมื้อเช้า หรือมื้อเย็นแบบเบา ๆ แถมยังกินได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วนด้วย วัตถุดิบ ข้าวสวยบดละเอียด 1 ถ้วย เห็ดหอมแช่น้ำร้อนจนนิ่ม หั่นเป็นเส้น 5-6 ชิ้น โปรตีนเกษตร ตามชอบ น้ำเปล่า 1 ถ้วย น้ำจากการแช่เห็ดหอม 1 ถ้วย คื่นช่าย 1 ต้น ซีอิ๊วขาวเจ 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ พริกไทย เล็กน้อย วิธีทำ ตั้งหม้อ ใส่น้ำมันเล็กน้อย นำเห็ดหอมลงไปผัดแล้วตักขึ้นพักไว้ เทน้ำแช่เห็ดหอมลงไปในหม้อ ใส่ข้าวสวยลงไปต้มจนเดือด คนบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ข้าวไหม้ เติมเครื่องปรุงลงไป ชิมรสตามชอบ ใส่เห็ดหอม และโปรตีนเกษตร ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ 👉 สเต็กโปรตีนเกษตร เมนูแปลกใหม่อย่างการนำโปรตีนเกษตรมาทำสเต็ก ทำไม่ยากแถมยังช่วยแก้เบื่อได้ดี นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากสลัดผักที่เป็นเครื่องเคียงด้วย วัตถุดิบ โปรตีนเกษตรชนิดแผ่น 4 แผ่น ซีอิ๊วขาวสูตรเจ 2 ช้อนชา ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนชา ไข่ไก่ 1 ฟอง เกล็ดขนมปัง 100 กรัม ผักสลัดมิกซ์ ตามชอบ น้ำสลัดไขมันต่ำ 1-2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำโปรตีนเกษตรไปแช่น้ำจากนั้นบีบน้ำออกพอหมาด หมักด้วยซีอิ๊วขาว และซอสเห็ดหอม ทิ้งไว้ 10 นาที นำโปรตีนเกษตรที่หมักแล้ว มาชุบไข่และเกล็ดขนมปัง ทอดด้วยไฟอ่อนจนเหลือง พักให้สะเด็ดน้ำมัน ตักสเต็กใส่จาน เคียงด้วยผักสลัด ราดน้ำสลัดไขมันต่ำตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ 👉 บร็อคโคลี่โปรตีนเกษตรลุยสวน ลุยสวนรสแซ่บ อุดมไปด้วยแคลเซียม ซิลิเนียม และวิตามินอีจากบร็อกโคลี เป็นเมนูโปรตีนเกษตรง่าย ๆ ที่ทำกินแก้เบื่อได้ทุกวัน หากจะทำสูตรเจไม่ต้องใส่กระเทียม และใช้ซอสเห็ดหอมแทนซอสหอยนางรม วัตถุดิบ
วิธีทำ ล้างและเด็ดบร็อกโคลีเป็นช่อ จากนั้นแช่ในน้ำส้มสายชู 10 นาที ล้างออกให้สะอาด ระหว่างนี้นำโปรตีนเกษตรไปแช่น้ำจนนิ่ม ตั้งกระทะ เติมน้ำมันงา เจียวกระเทียมให้เหลืองหอม เติมโปรตีนเกษตรและพริกขี้หนูลงไป จักนั้นตักใส่จาน พักไว้ ลวกบร็อกโคลีจนสุกปานกลาง เติมซอสหายนางรม และซอสปรุงรส ชิมรสชาติตามชอบ ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยโปรตีนเกษตรที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ Read : จำหน่าย เครื่องซีลสูญญากาศ ทุกชนิด เครื่องคุณภาพ มีหลากหลายราคาทั้ง เครื่องซีลสูญญากาศ ขนาดเล็ก เครื่องซีลสูญญากาศอุตสาหกรรม เครื่องดูดสูญญากาศ ซีลปิดสินค้าได้หลากหลาย. ราคาพิเศษ จำนวนจำกัด. กทม. ปริมณฑล ส่งฟรี.
|
นักเขียนWriter Neng Yu Archives
November 2022
Categories
All
|