ช่วงนี้กระแสของการรับประทาน "อาหารคลีน" จะไม่ได้นิยมกระฉ่อนเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ก็นับว่าเป็นเทรนด์สำคัญสำหรับคนที่รักสุภาพ อยากดูแลรูปร่างให้ดูดี เพราะการออกกำลังกายอาจไม่ใช่ทางออกเดียวที่จะทำให้เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ประสบความสำเร็จ แต่อาหารก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะออกกำลังกายอย่างหนักแต่หากไม่รับประทานอย่างระมัดระวังก็จะต้องกลับไปอ้วนเหมือนเดิม วันนี้เราก็มีเมนูอาหารคลีนที่น่าสนใจรสชาติอร่อยมาฝากให้ไปลองทำกัน ลองหาชิมดู เอาไว้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้การควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย เมื่อมีกิจวัตรที่ดี การรับประทานที่ดี แน่นอนว่าสุขภาพที่ดีจะต้องตามมาไม่ช้าก็เร็ว การลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร สิ่งที่ต้องลดมากที่สุดคือ "แป้ง" และอีกอย่าง ที่หลายๆ คนคิดว่าต้องลดด้วยเหรอ มีผลเหรอ แต่หารู้ไม่ว่า นี่คือสิ่งสำคัญไม่แพ้แป้งเลยทีเดียว สิ่งนั้นก็คือ "โซเดียม" ซึ่งโซเดียมนี้ อยู่ในอาหารที่เป็นเครื่องปรุงทั้งหลาย เช่น เกลือ น้ำปลาร้า กะปิ น้ำปลา ฯลฯ ฉะนั้น การลดน้ำหนักที่ดี ต้องลดแป้ง และโซเดียม ควบคู่กันไป 1.ไข่มะกอก ส่วนผสม ไข่ไก่ มะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำผึ้ง เกลือและพริกไทย ขั้นตอนการทำ เริ่มจากเทน้ำมันใส่กระทะเล็กน้อย หรือถ้าใครเลือกใช้กระทะเทฟล่อนจะไม่ใส่น้ำมันก็ได้ หลังจากนั้นตอกไข่ใส่ลงไปเมื่อไข่เริ่มสุกใส่มะกอกหั่นแว่นลงไปผัดให้สุกปรุงรสด้วยน้ำผึ้ง เกลือและพริกไทยตามใจชอบเป็นอันเสร็จเรียบร้อยโดยเมนูนี้สามารถนำไปทานคู่กับ ข้าวต้ม ข้าวสวย ขนมปัง หรือกาแฟก็เข้ากัน กุ้งดองส่วนผสม กุ้ง น้ำปลา Kontrol (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล) หอมแดง กระเทียม พริกหอม ขั้นตอนการทำ แกะเปลือกและหางกุ้งออกให้หมดพร้อมกับผ่าหลัง เอาขี้กุ้งออกให้เรียบร้อย แล้วนำกุ้งไปแข่ในโซดา ประมาณ 5-10 นาที หลังจากนั้นนำกุ้ง วัตถุดิบ หอมแดง กระเทียม พริก ทั้งหมดมาหั่นให้ละเอียด หลังจากนั้นปรุงรส Kontrol หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว มะนาวและน้ำปลาอย่างละเล็กน้อย คนให้น้ำตาลละลายและทุกอย่างเข้ากันเป็นอย่างดี เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ไก่อบเกลือส่วนผสม ไก่ , เกลือ ขั้นตอนการทำ ปรุงรสไก่ด้วยเกลือเพียงอย่างเดียว แล้วนำเข้าไปเรียงในหม้อทอดไร้น้ำมันโดยจะทอดที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียสเป็นเวลารวม 15 นาที โดยเมื่อครบ 7 นาทีแรกจะทำการพลิกไก่เพื่อให้ไก่สุกทั่วกันทั้งชิ้นและไม่ติดกันเป็นแพอีกด้วย เมื่อครบเวลาแล้วนำไก่ออกจากหม้อจัดใส่จานเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ซึ่งเมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูที่คลีน และทำได้ง่ายมาก ใช้วัตถุดิบเพียงแค่ ไก่ และ เกลือ เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นการทอดแต่เราใช้หม้อทอดไร้น้ำมันในการทอดจะเป็นการดึงน้ำมันจากตัวไก่เองออกมาใช้ซึ่งถือว่าคลีนเป็นอย่างมาก ข้าวไข่นุ่มส่วนผสม ไข่ไก่ , น้ำมันมะกอก ขั้นตอนการทำ เริ่มจากเทน้ำมันใส่กระทะเล็กน้อยหรือถ้าใครเลือกใช้กระทะเทฟล่อนจะไม่ใส่น้ำมันก็ได้ เมื่อลงไปแล้ว ใช้ทัพพีคนให้ไข่เข้าเป็นเนื้อเดียวกันเพียง 1-2 นาทีเท่านั้นเป็นอันเสร็จเรียบร้อย สามารถทานคู่กับน้ำยำ ถุงซีลสูญญากาศ สำหรับใช้ในการยืดอายุอาหาร แนะนำ ( ถุงซีลสูญญากาศ SGE ) มีความใสของถุงทั้งสองด้าน และ พื้นผิวเรียบ การใช้งานที่ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งสามารถ ทนอุณหภูมิได้ถึง (-17) – 100 องศา รวมทั้ง มีราคาย่อมเยาที่สุดในบรรดาถุงซีลสูญญากาศทั้งหมด จึงเป็นที่นิยมสำหรับ ธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป
0 Comments
ขิง เป็นพืชผักที่กำลังอยู่ในระยะที่ทำรายได้ให้แก่ชาวสวนชาวไร่ในประเทศไทยมาก ทั้งนี้ เพราะเรามีอุตสาหกรรมทำขิงดองส่งขายแก่ประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ขิงที่ปลูกได้นี้มีคุณภาพดีตรงกับความต้องการของตลาด ประเทศไทยสามารถใช้พื้นที่ในการปลูกขิงได้ทุกภาค ภาคใต้ปลูกในจังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ภาคเหนือปลูกในจังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร นอกจากการขุดหัวขิง (ลำต้นใต้ดิน) มาทำอุตสาหกรรมขิงดองแล้ว ซึ่งหัวขิงที่ใช้ทำขิงดองนี้สามารถใช้ได้ทั้งในระยะอ่อนและแก่ หัวขิงยังใช้เป็นผักสด โดยเฉพาะขิงอ่อน นำมารับประทานโดยใช้ ผัด ต้ม หัวขิงแก่นำมาปรุงอาหารได้เช่นกัน หัวขิงแก่ยังสามารถทำเป็นขิงแห้ว แล้วนำไปบดทำเป็นชาขิง และเป็นสมุนไพรใช้เป็นส่วนผสมของยาหลายชนิด โดยเฉพาะยาที่เกี่ยวกับการแก้โรคลำไส้ ลมในท้อง ท้องอืดแน่น และยังมีสรรพคุณช่วยทำให้เลือดลมเดินสะดวก ขิงพื้นเมืองที่ไทยเราปลูกกันมานานมีขิงตาแดง คือ ปลายหน่อหรือตาที่งอกออกจะเต่ง แดง บางทีเรียกว่าพันธุ์นครปฐม เพราะเดิมปลูกมากที่นั่น ส่วนอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า ขิงตาขาว คือปลายตา ที่งอกออกมาจะเป็นสีขาว ปลูกมากทางสงขลา ดำเนินสะดวก บางทีเรียกว่าพันธุ์ดำเนินสะดวก ต่อมาเมื่อการปลูกขิงทำมากขึ้น จึงได้นำเอาพันธุ์ของไต้หวันเข้ามา เพราะพันธุ์นี้เป็นที่ต้องการของตลาดญี่ปุ่น พันธุ์ไต้หวันนี้ หัวใหญ่ กลิ่นไม่ฉุนจัด เริ่มมาปลูกกันมากที่ปากช่อง ปัจจุบันปลูกกันแพร่หลายในพื้นที่ปลูกขนาดใหญ่ เนื่องจากขิงนั้น เราปลูกเพื่อเอาลำต้นใต้ดินและเวลาเก็บเกี่ยวต้องขุดเอาส่วนใต้ดิน ดังนั้น ดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนปนทราย เพื่อสะดวกในการเก็บขิง การเตรียมดิน ควรใส่ปุ๋ยคอกและปูนขาวด้วย ดินต้องมีความอุดมสมบูรณ์สูง จึงจะได้หัวขิงที่ใหญ่ ขั้นตอนการปลูกขิง เบื้องต้น มีดังต่อไปนี้-การชำขิง นิยมนำแม่พันธุ์ขิงที่ได้มาทำการ ชำขิง เสียก่อน เลือกวางที่เหมาะสม วางขิงซ้อนกัน เรียงให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยพยายามอย่าให้พื้นข้างล่างอับทึบเกินไป -เอาฟางหรือกระสอบคลุมทับไว้ เอาน้ำพรมให้มีความชื้นอยู่เสมอ ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือนจะมีหน่องอกออกมา แนะนำให้ใช้ กระถางผ้า ผลิตจากผ้าไฟเบอร์ชนิดพิเศษไม่เกิดรา ทนต่อแสง UV ไม่กรอบ. ลดอุณหภูมิบริเวณราก ไม่ร้อนระอุเหมือนกระถางพลาสติก ทำให้รากเย็น เดินได้ไว ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีมากเมื่อปลูกในกระถางผ้า ของ SGETHAI ราคาเริ่มต้นเพียง 15 บาท แล้วคุณจะลืมกระถางพลาสติกไปเลย การตัดแบ่งแง่งขิง เพื่อใช้ในการปลูก นิ้วเศษๆ จะให้น้ำ 2-3 วัน/ครั้ง ระยะนี้ขิงจะอายุได้ประมาณ 2 เดือน ควรจะทำการพูนโคน คือเอาดินบนลูกฟูกลงมากลบขิง จะทำให้แง่งขิงขาวอวบ ในการพูนโคน ควรทำโดยความระมัดระวัง อย่าให้เครื่องมือโดนแง่งขิง ควรใช้เครื่องมือลักษณะคล้ายพาย โกยดินลงกลบ ห้ามใช้จอบหรือเสียม
-ข้อควรระวัง หากพบว่าแปลงปลูกมีน้ำท่วมขัง ให้รีบระบายน้ำออกทันที และให้เปิดวัสดุที่ใช้คลุมแปลงออก ปล่อยให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับแสงแดดเต็มที่ จะช่วยลดปัญหาโรคเน่าของขิงได้ การเก็บเกี่ยว -ก่อนเก็บเกี่ยวแง่งขิงควรรดน้ำในแปลงปลูกให้ชุ่ม แล้วใช้มือถอนต้นขิงขึ้นตรงๆ เพื่อไม่ให้แง่งขิงขาด อายุการเก็บเกี่ยวสำหรับขิงอ่อนประมาณ 5-7 เดือน นับจากวันปลูกลงแปลง โดยขิงอ่อน จะเก็บได้นานไม่เกิน 7 วัน ผลผลิตขิงอ่อนจะได้ประมาณ 4 ตัน/ไร่ - ถ้าเก็บเกี่ยวขิงแก่ จะต้องใช้เวลาให้ขิงมีอายุ 11-12 เดือน หลังจากปลูกลงแปลง โดยขิงแก่สามารถใช้ผผลิตประมาณ 8 ตัน/ไร่ และมีอายุการเก็บได้นานประมาณ 3 เดือน Cr.thaiquote.org ภาพจากเต้าหู้ทรงเครื่อง wongnai.com ขอเสนอ! เมนูเอาใจครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และคนรักการกินเต้าหู้กับเมนู “เต้าหู้ทรงเครื่อง” เมนูเต้าหู้ที่ทำกินเองง่าย ๆ กินได้ไม่มีเบื่อ จะทำให้ใคร ๆ กินก็ยากที่จะปฏิเสธด้วยรสชาติที่ละมุนละไม เรียกได้ว่าขอเพิ่มอีกจานแทบไม่ทัน ขอกระซิบว่าสูตรเต้าหู้ทรงเครื่องสูตรนี้เด็ดอย่าบอกใครเชียวค่ะ ถ้าพร้อมแล้วรีบใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วมาผัดเต้าหู้ทรงเครื่องกัน! ส่วนผสม เต้าหู้ทรงเครื่อง
1.หั่นเต้าหู้ให้เป็นชิ้น นำลงทอดในน้ำมันจนสีเหลืองทอง แล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน 2. จากนั้นมาเริ่มผัดกันค่ะ ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่กระเทียมสับลงผัดให้เหลือง ใส่หมูสับลงผัดให้หมูสุก ใส่หอมใหญ่ เต้าหู้ทรงเครื่อง 3. ใส่แครอต ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้หอมใหญ่และแครอตสุก เต้าหู้ทรงเครื่อง 4. ใส่มะเขือเทศ เติมน้ำเปล่า ผัดให้น้ำงวดลง โรยต้นหอม ผัดให้เข้ากัน เป็นอันเรียบร้อย เต้าหู้ทรงเครื่อง 5. ตักราดเต้าหู้ที่เราทอดไว้ โรยต้นหอมซอยกับพริกไทยป่น พร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ เต้าหู้ทรงเครื่อง สูตรจาก คุณ Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม อยากกินน้ำเต้าหู้ แต่ขีเกียจออกไปซื้อ คุณก็สามารถทำน้ำเต้าหู้ง่ายๆ แม้จะอยู่บ้านด้วย เครื่องทำน้ำเต้าหู้ จาก SGE โดยเครื่องทําน้ำเต้าหู้มาพร้อมแยกน้ำและกาก ใช้งานง่าย ราคาเริ่มเพียง 1,290 บาท
ตาข่ายกรองแสง” หรือที่ทั่วไปนิยมเรียกกันว่า “สแลน” หรืออีกหลายๆ ชื่อ เช่น สแลนกรองแสง,สแลนบังแดด,ตาข่ายพรางแสง,สแลนสีเขียว หรือ มุ้งเขียว เป็นต้น ที่มีลักษณะเป็นผืน สีเขียว หรือ สีดำ ตาข่ายกรองแสง หรือ สแลนกรองแสง นั้นคืออะไร? และมันเอาไว้ใช้งานอย่างไร? ตาข่ายกรองแสง ถ้าดูจากชื่อก็แน่นอนครับว่าเอาไว้ใช้กรองแสงนั่นเอง ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิของแสงแดด ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการเจริญเติบโตของต้นไม้ และยังช่วยบังแดดให้เราได้ดีอีกด้วย นอกจากนั้นตาข่ายกรองแสงยังเอาไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีกมากมาย เช่น งานเกษตรทั่วไป ใช้ทำเป็นหลังคาเรือนเพาะชำ เรือนเพาะเห็ด เรือนปลูกผักผลไม้ โรงเรือนไม้ดอกต่างๆ คลุมแปลงเกษตร คลุมหรือล้อมรั้วเลี้ยงสัตว์ ฟาร์มกุ้ง บ่อเลี้ยงปลา ทำเป็นหลังคากันแดด ลานจอดรถ ดาดฟ้า อาคารก่อสร้าง ป้องกันการร่วงหล่นของสิ่งของตามอาคารก่อสร้าง และใช้คลุมส่วนต่างๆ ของบ้านที่ต้องการความร่มรื่นสวยงาม และประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายหลายอย่าง ตาข่ายกรองแสงหรือสแลนกรองแสงนั้นจะมีปริมาณ % ในการกรองแสงที่แตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน คือ 50% 60% 70% และ 80% ซึ่งเราก็ต้องเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการนำไปใช้งาน และนอกจากปริมาณในการกรองแสงที่แตกต่างกันแล้ว สแลนกรองแสงยังมีลักษณะของการทอว่าทอแบบกี่เข็ม เช่น ทอแบบ 1 เข็ม, ทอแบบ 2 เข็ม, ทอแบบ 3 เข็ม เป็นต้น ยิ่งเข็มเยอะก็ยิ่งมีความเหนียวและทนทานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง สแลนทำจากอะไร? วัตถุุดิบที่ใช้ในการผลิตก็คือ High Density Polyethylene หรือเรียกชื่อย่อว่า HDPE เป็นพลาสติกประเภทโพลิเอทิลีน ที่มีความหนาแน่นสูง มีคุณสมบัติพิเศษเมื่อนำไปใช้งานหลายอย่าง ได้แก่
สแลน มีกี่ประเภท?1. สแลนแบบถัก ชนิดนี้ทำจากโพลิเอทิลีนน้ำหนักเบา จึงเหมาะกับเกษตรกรรม การเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ กสิกรรมทุกประเภท 2. สแลนแบบทอ ตาข่ายชนิดนี้มีน้ำหนักมากกว่า ทิ้งตัวดี มีความยืดหยุ่นและทนทานสูง จึงนิยมใช้ในการเลี้ยงสัตว์และทำสิ่งปลูกสร้างที่ต้องการความแน่นหนามั่นคง ด้วยการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะให้ร่มเงาแก่แปลงพืชผัก แปลงดอกไม้แล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในการคลุมแปลงปลูก หรือทำเป็นรั้วแบ่งพื้นที่ในการทำปศุสัตว์และประมงต่าง ๆ เช่น บ่อกุ้งและบ่อปลา เพื่อให้ร่มเงาและป้องกันไม่ให้แสงแดดส่งผลกระทบต่อพันธุ์ปศุสัตว์ โดยเราสามารถเลือกอัตราการบังแสงให้เหมาะสมกับพืชหรือฟาร์มของเราโดยดูจากเปอร์เซ็นต์การกรองแสงที่ระบุมากับตัวสแลนกันแดด โดยค่าเปอร์เซ็นต์ยิ่งสูง ยิ่งสามารถบังแสงได้มากขึ้น และยังสามารถเลือกคุณภาพความทนทานของสแลนได้จากฝีเข็มในการทอยิ่งใช้หลายเข็มยิ่งทนทานด้วย
อาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดในชีวิตของคนเราเลยใช่ไหมเอ่ย แต่ว่าการทำอาหารกลับเป็นเรื่องน่าปวดหัวอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน ยิ่งการทำอาหารสำหรับงานเลี้ยงที่มีคนมากหน้าหลายตามาร่วมงานยิ่งยากขึ้นไปอีก จะทำอันนู้นก็คนนี้กินไม่ได้ จะทำอันนี้ก็คนนั้นกินไม่ได้ แล้วเด็ก ๆ ก็ทานอาหารรสจัดแบบเราไม่ได้อีก เราเข้าใจค่ะว่าการต้องตกอยู่ในสถานะนี้มันน่าปวดหัวแค่ไหน ไม่ต้องกังวลไปนะคะเพราะวันนี้เรามาพร้อมกับ “เมนูอาหารจากหมูสับ” ที่รับรองว่ากินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ หมูสับที่ดูเหมือนจะเป็นอาหารง่าย ๆ แต่ก็ยากถ้าเราเลือกใช้ไม่ถูกประเภทค่ะ เพื่อน ๆ เคยสังเกตุกันบ้างไหมคะว่าทำไมบางครั้งหมูสับที่เราซื้อมามันมีเนื้อหยาบ บางครั้งก็มีเนื้อเนียนสวย นั่นไม่ใช่ความผิดของร้านหรอกค่ะ แต่หมูสับแต่ละเกรดใช้สำหรับทำอาหารแต่ละเมนูแตกต่างกัน อย่างเช่น ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการใช้หมูสับเพื่อนำไปสอดไส้หรือทำเมนูที่มีรสชาติเบาอย่างซุปหรือโจ๊กก็ควรเลือกซื้อหมูบดละเอียดและมีมันน้อย เพราะเวลาหมูปรุงสุกแล้วจะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียด ไม่มัน ไม่เลี่ยน แต่ถ้าจะทำอาหารรสจัดหรืออาหารประเภททอดก็แนะนำให้เลือกซื้อหมูบดหยาบติดมันค่ะเพราะน้ำมันที่อยู่ในเนื้อหมูจะช่วยคงความชุ่มชื้นและเนื้อหมูจะมีสัมผัสที่หลากหลาย เอาล่ะรู้วิธีการเลือกซื้อหมูบดแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าวันนี้มีเมนูอะไรบ้างที่ทำมาจากหมูสับและอร่อยจนวางช้อนไม่ลง ถ้าอยากรู้ว่าจะมี เมนูหมู โปรดเพื่อน ๆ อยู่กี่เมนูก็เลื่อนชมได้เลยจ้า อย่าได้รอช้า กะเพราหมูสับ เริ่มต้นกันที่เมนูสิ้นคิดอย่าง กะเพราหมูสับ ซึ่งถึงแม้ใครจะว่าจำเจ น่าเบื่อ แต่พอทำออกมากินกับข้าวสวยร้อน ๆ ทีไร เป็นต้องอร่อยทุกที เมนูนี้ใครเป็นพ่อบ้านแม่บ้าน หรือมือใหม่ จึงควรรู้วิธีทำไว้ เผื่อวันไหนเบื่อ ๆ ไม่รู้จะทำอะไรทาน จะได้ทำเมนูนี้ไว้รับประทานได้ ส่วนผสม
หมูสับผัดกระเทียม ใครเบื่อกินหมูทอดกระเทียมแบบที่ใช้หมูชิ้น ลองเปลี่ยนมาเป็นหมูสับแล้วอาจะติดใจ เพราะหมูสับบางทีมีติดมัน จะทำให้มีสัมผัสนุ่ม หนุบหนับ เคี้ยวมันกว่าเดิม ที่สำคัญยังทำง่ายและใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่างอีกด้วย ส่วนผสม หมูเนื้อแดง กระเทียมไทยสับละเอียด ผักชี น้ำมันหมู ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา ซีอิ๊วดำ 1/8 ช้อนชา ผงปรุงรส 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา พริกไทยป่น 1 ช้อนชา วิธีทำ นำหมูเนื้อแดงมาสับให้ละเอียด จนกลายเป็นหมูสับ ตั้งกระทะ ใส่กระเทียมไทยสับละเอียดลงไป ผัดให้กระเทียมเหลืองหอม (แบ่งกระเทียมออกครึ่งหนึ่งไว้โรยหน้าด้วย) ใส่หมูสับลงไป ผัดให้เนื้อหมูสับสุกกำลังดี ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา ผงปรุงรส 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา พริกไทยป่น 1 ช้อนชา ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ซีอิ๊วดำ 1/8 ช้อนชา เพื่อแต่งสีหมูสับให้น่ากินมากขึ้น เสิร์ฟใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว เป็นอันเสร็จ หมูก้อนทอดกระเทียมพริกไทยหมูก้อนทอดใคร ๆ ก็ทำกัน แต่จะทำให้กรอบอร่อยนุ่มในต้องมีสูตรเด็ด ขอนำเสนอหมูก้อนทอด สูตรจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen รับรองเลิศมากเพราะใส่เครื่องโขลกแน่น ๆ เพิ่มวุ้นเส้นและแครอต และใส่แป้งทอดกรอบเพื่อให้กรอบนานด้วย ส่วนผสม หมูก้อนทอดกระเทียมพริกไทย (ประมาณ 12-15 ลูก) หมูสับ 300 กรัม กระเทียมพริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ ไข่ 1 ฟอง แครอตสับ 2 ช้อนโต๊ะ วุ้นเส้น 3 ช้อนโต๊ะ แป้งทอดกรอบ 2-3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำหมูก้อนทอดกระเทียมพริกไทย 1. หมักหมูสับโดยใส่สามเกลอ ตามด้วยเครื่องปรุงรส (เคล็ดลับหมูนุ่มฉ่ำอร่อยให้ใส่น้ำมันลงไป) 2. ใส่ไข่ แครอต และวุ้นเส้น ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน 3. ใส่แป้งทอดกรอบลงไป เพื่อทำให้หมูทอดกรอบนอกนุ่มใน ปั้นหมูสับเป็นก้อนกลมแล้วแต่ขนาดที่ชอบ นำไปทอดจนสีเหลืองสวย *** แนะนำให้ใช้กับ เตาสเต็ก ช่วยในการกระจายความร้อนได้ดีเยี่ยม สุกเร็ว สามารถควบคุมความร้อนได้ 2 ข้าง สะดวก รวดเร็ว หมูทอดนมสด สำหรับใครที่ชอบหมูทอดรสกลมกล่อมลองใส่นมสดลงไป สูตรจาก คุณ keethaya สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เพิ่มความหอมจากผักชี ก่อนทอดเอาไปคลุกเกล็ดขนมปัง
ส่วนผสม หมูทอดนมสด แป้งชุบทอด หรือแป้งสาลี ไข่ไก่ 1 ฟอง หมูบด หรือหมูสับ นมสด พริกไทย ผักชี เกล็ดขนมปัง น้ำมัน (สำหรับทอด) วิธีทำหมูทอดนมสด 1. ผสมแป้งชุบทอดกับไข่ไก่ เติมน้ำเปล่า คนผสมให้ออกข้น ๆ เตรียมไว้ 2. ใส่หมูสับลงชามผสม เติมนมสดและผักชี ปรุงรสด้วยพริกไทย นวดจนเข้ากันดี จากนั้นปั้นหมููเป็นก้อน 3. ตั้งน้ำเปล่าพอเดือดแล้วหรี่ไฟเป็นเบาสุด ใส่หมูปั้นก้อนลงไปต้ม ประมาณ 1-2 นาที ตักขึ้นพักไว้ (เคล็ดลับ : การเอาหมูไปลวกก่อนทอดเพราะตอนทอดจะได้ใช้ไฟแรงได้และแป้งจะกรอบพอดี ใช้เวลาทอดไม่นานหมูก็สุก น้ำในหมูไม่ออกมา น้ำมันก็จะใสและเก็บไว้ทอดอีกครั้งได้) ส่วนน้ำให้เร่งไฟจนเดือดจัด ปิดไฟ เก็บไว้เป็นน้ำซุปทำแกงจืดได้ 4. พอหมูปั้นก้อนเย็นลงก็เอาลงไปชุบกับน้ำแป้ง เสร็จแล้วเอาไปคลุกกับเกล็ดขนมปัง 5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปพอท่วม พอน้ำมันร้อนใส่หมูปั้นก้อนคลุกเกล็ดขนมปังลงไปทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน ใครที่กำลังทาน อาหารคลีน หรือ สาวๆ ที่กำลังลดน้ำหนักอาจจะรู้สึกเบื่อกับอาหารหรือเมนูคลีนที่กำลังกินอยู่ที่ค่อนข้างที่จะซ้ำซากจำเจ วันนี้เรามีเมนู เค้กฝักทอง 3 สูตร คลีนๆ มาฝาก โดยเมนูนี้คุณจะได้คุณค่าโภชนาการจากฟักทองที่มีทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ชะลอรอยเหี่ยวย่น ลดน้ำตาลในเลือด และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย พร้อมกับสูตรคลีนที่เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือลดความอ้วนอยู่ก็สามารถทำทานได้ และที่สำคัญเมนู เค้กฟักทอง 3 สูตรนี้ยังทำตามได้ง่ายๆ ใช้วัตถุดิบ และกระบวนการขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน สวัสดีค่ะ มาชวนทำเค้กนึ่งแบบใส่ไส้กันค่ะ สูตรนี้ไม่ใส่ไข่นะคะ ทั้งตัวเค้กและไส้ขนมสีเหลืองธรรมชาติจากเนื้อฟักทองค่ะ ทำง่ายทานอร่อยนึ่งร้อน ๆ สุกใหม่ ๆ ฟินเลยค่ะ ถ้าชอบลองทำดูนะคะ ปรับเปลี่ยนน้ำตาลตามรสที่ชอบเลยค่ะ ส่วนผสม ตัวเค้ก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Easy food good health by Andy เค้กฟักทองคลีน (ใช้เตาอบไฟฟ้า) เค้กไร้แป้ง เค้กแคลอรี่ต่ำอันนี้เป็นสูตรของจาก Youtube ทําเอง กินเอง Byแม่Milko_o จุดเด่น คือ ไม่ใช้แป้ง แคลอรี่ต่ำ วัตถุดิบในการทำ • ฟักทองนึ่งสุก 300 กรัม • กล้วยหอมสุก 1 ลูก(ขนาดกลาง) • ไข่ไก่ 2 ฟอง(เบอร์4) • ผงฟู 1/2 ชช. • เมล็ดเจีย 10 กรัม(ไม่ใส่ก็ได้ ใส่งาขาวหรือธัญพืชอื่นๆได้ตามชอบ) • งาขี้ม้อน 1 ชต. (ไม่ใส่ก็ได้ ใส่งาขาวหรือธัญพืชอื่นๆได้ตามชอบ) อุปกรณ์ • เตาอบไฟฟ้า • พิมพ์ขนมอลูมิเนียม วิธีการทำ เค้กฟักทอง เพื่อสุขภาพ 1. นำฟักทองปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด หันฟักทองสไลด์เป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 2. นำฟักทองที่หั่นแล้วไปนึ่งที่ซึ้ง ใช้ไฟกลาง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที 3. จากนั้น ใช้ช้อนบดฟักทอง+กล้วยให้ละเอียด 4. นำไข่แดง ไข่ขาวแยกจากกัน (ใช้ไข่ไก่ 2 ฟอง) นำเฉพาะไข่แดงมาผสมให้เข้ากันกับฝักทองที่เตรียมไว้ ใส่ผงฝู งาขี้ม่อน เมล็ดเจีย 5. นำไข่ข้าวที่ได้แยกไว้มาตีให้ขึ้นฟู นำมาผสมกับฝักทองทองที่เตรียมไว้ 6. นำฝักทองใส่ใน พิมพ์ขนมปังสี่เหลี่ยม รองด้วยกระดาษไข่ นำไปอบ โดยใช้ไฟบน ไฟล่าง อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 165 องศา ใช้เวลา 40-50 นาที 7. นำออกมาจากเตา พักทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นค่อยใช้มีดแซะออกจาก พิมพ์ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เค้กฟักทองข้าวโอ๊ต เน้นส่วนผสมน้อย ทำง่าย ด้วยหม้ออบลมร้อนสูตรนี้เป็นสูตรจากช่อง Youtube คุณ Narisma cooking จุดเด่นคือใช้วัตถุดิบน้อย และใช้หม้ออบลมร้อนในการอบ เราจะได้ Texture ของขนมแตกต่าง ไม่เหมือนกับ อบด้วย เตาอบไฟฟ้า วัตถุดิบในการทำ • ฟักทอง 300 กรัม บดละเอียด • ไข่ไก่ 2 ฟอง แยกไข่ขาว ไขแดง •มะนาว ประมาณ 1 ช้อนชา • ธัญพืชสำหรับแต่งหน้า อุปกรณ์ • หม้ออบลมร้อน • พิมพ์เค้กกระดาษ วิธีทำ เค้กฟักทอง อบลมร้อน 1. บดฟักทองให้ละเอียด ผสมไข่แดง บด หรือผสมให้เข้ากัน 2. นำไข่ขาวตี พร้อมใส่มะนาวเล็กน้อย มะนาวจะช่วยให้ขี้นฟู ตีไข่ขาวให้เป็น เมอแรงค์ 3. นำไข่ขาวที่ตีจนเป็น เมอแรงค์ ผสมกับฟักทอง และไข่แดงที่ผสมไว้แล้ว เมื่อผสมเข้ากัน นำใส่พิมพ์ พิมพ์ขนมปัง แต่งหน้าด้วยธัญพืชตามชอบ 4. ใส่พิมพ์ใส่ตู้อบลมร้อน ด้วยอุณหภูมิ 170 – 180 องศา 15 – 20 นาที เทคนิคคือเอาไม้จิ้ม ถ้าไม่มีของเหลวติดไม้ เป็นอันใช้ได้ พร้อมรับประทาน เค้กฟักทอง สูตรนึ่งเป็นอีกสูตรที่เป็นจุดเด่นคือใช้การนึ่ง เค้กฟักทองที่ได้ Texture และรสชาติก็จะต่างจากสูตรอื่นๆ โดยสูตรได้จากช่อง Youtube ครัวบ้านนา อาหารอร่อย
วัตถุดิบในการทำ • ฟักทองบด 400 กรัม • งาขาว งาดำ (ตามชอบ) • ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 50 กรัม • ผงฝู ½ ช้อนชา • ไข่ขาว 2 ฟอง • ไข่แดง อุปกรณ์ • ซึ้งนึ่ง • ถ้วยอลูมิเนียม • กระดาษฟอยล์ วิธีทำ เค้กฟักทอง สูตรนึ่ง 1. ใช้ช้อนบดฝักทองให้เอียด ใส่ไข่แดงผสมให้เข้ากัน ตามด้วย งาขาว งาดำ ข้าวโอ๊ตบดละเอียด ผสมให้เข้ากัน ใส่ผงฟู 2. นำไข่ขาวแช่เย็นประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นนำมาตีให้เนียนขึ้นฟู หลักจากนั้นผสมกับฟักทองที่เตรียมไว้คนให้เข้ากัน 3. เตรียมซึ้ง ตั้งหม้อให้ร้อน นำถ้วยอลูมิเนียมไปนึ่งให้ร้อน (ขนมจะไม่ติดถ้วย) จากนั้นนำฟักทองที่เตรียมไว้ใส่ถ้วย โรยหน้าให้สวยงามด้วยธัญพืชตามชอบ หลังจากนั้นนำกระดาษฟอยล์มาห่อเพื่อไม่ให้น้ำหยดใส่เค้ก 4.นำขนมนึ่งในซึ้งด้วยไฟกลาง ด้วยเวลา 30 นาที จากนั้นยกออกพักให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ แนะนำ เตาอบไฟฟ้า เตาอบขนม จาก SGETHAI โดยมีราคาเริ่มต้น 590 เท่านั้น มีทั้งเตาอบแบบใช้งานตามบ้าน ตามครัวเรือน ไปจนถึง เตาอบไฟฟ้าระดับอุตสาหกรรม พร้อมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมให้คำแนะนำ ไม่ทิ้งลูกค้าแน่นอน |
นักเขียนWriter Neng Yu Archives
November 2022
Categories
All
|