จะมีอะไรดีไปกว่ากิน ไอศกรีมแท่ง เย็น ๆ สักถ้วยให้ชื่นใจ ในช่วง Summer และอากาศร้อนๆแบบนี้ แต่จะออกไปซื้อกิน ช่วงนี้ Covid-19 ก็ยังไม่จางหาย หลายคนก็คงไม่อยากจะออกจากบ้าน จะดีแค่ไหนถ้ามีไอศกรีมหวาน ๆ เย็น ๆ ติดตู้เย็นเอาไว้กินยามร่างกายอ่อนเพลียจากการทำงาน ถ้าซื้อกินก็ไม่อร่อยเท่าทำเอง จริง ๆ นะ จากที่เคยทำเมนูไอศกรีมแบบตัก แม้จะอร่อยแต่เดินถือกินไม่สะดวกเท่าไร ลองเปลี่ยนมาทำไอศกรีมเสียบไม้บ้างดีไหม แอดมิน ขอนำเสนอวิธีทำไอศกรีมแท่ง มีทั้งไอศกรีมผลไม้ ไอศกรีมโยเกิร์ต ไอศกรีมกราโนลา ไอศกรีมโบราณ เป็นต้น ทุกสูตรทำง่าย ไปดูสูตรกันเลย ไอศกรีมแท่งชาเขียวถั่วแดง (Green Tea Popsicles) มาเริ่มต้นความเย็นชุ่มฉ่ำกันด้วย ไอศกรีมแท่ง ชาเขียวสไตล์ญี่ปุ่น ที่ใครจะไปรู้ว่าไม่ต้องมีเครื่องทำไอศกรีมก็สามารถทำได้ด้วย ลดสเกลความยากลงมาหน่อย เปิดประเดิมด้วยไอศกรีมแท่งชาเขียวเนื้อเข้มข้นหวานมันแถมยังแอบซ่อนถั่วแดงกวนเอาไว้ด้านล่าง ได้อารมณ์เหมือนญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่สำคัญทำง่ายมาก รีบไปขุดเอาพิมพ์ไอศกรีมแท่งมาล้างรอไว้ได้เลย สูตรจากเฟซบุ๊ก Rin Silpachai ไปดูส่วนผสมกันเลยค่ะ ส่วนผสม
แนะนำ เครื่องทำไอศกรีม ( Ice cream maker )ที่มีกำลังการผลิตที่สูงสุดในขณะนี้ โดยมีกำลังการผลิตสูงถึง 26 ลิตร/ชั่วโมง มีทั้งแบบ 1 หัว และ 3 หัว ทำไอศกรีมทั้งแบบ Hard Serve, Soft Serve ราคาเริ่มเพียง 39,900฿ ไอศกรีมแท่ง ผลไม้สดเมนูนี้เอาใจสาว ๆสุดๆเลยค่ะ ใครที่ไม่อยากกิน ไอศกรีมแท่ง ที่มีส่วนผสมของไขมันนมเนยให้ระคายหุ่นก็ต้องเจอนี่ ไอศกรีมแท่งผลไม้สด ตอบโจทย์ทั้งความสดชื่น ดับร้อน อร่อย ได้ประโยชน์ และที่สำคัญคือ แคลอรีต่ำมาก ๆ กัดคำเดียวเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ สูตรจาก คุณ MMW สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ส่วนผสม
ไอศกรีมแท่งกล้วยบวชชีใครจะไปเชื่อว่ากล้วยบวชชีจะมาทำเป็นไอศกรีมได้ด้วย ขอบอกเลยว่า อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ คราวหน้าคราวหลังถ้าซื้อกล้วยบวชชีมาแล้วกินไม่หมด แนะนำให้จับมาทำไอศกรีมแท่งชิ้นจิ๋วเก๋ ๆ แบบนี้ดู เปลี่ยนขนมไทยบ้าน ๆ ให้กลายเป็นขนมอินเตอร์ ๆ รับรองว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน
ไอศกรีมแท่ง โยเกิร์ตขอปิดท้ายด้วยเมนู ไอศกรีมแท่ง จิ๋ว ๆ น่ารัก ๆ ที่ทำง่าย ๆ สีสันสดใส หอมละมุนแต่แอบแฝงไปด้วยความเปรี้ยวให้ได้เข็ดฟันกันเบา ๆ แถมยังเอาใจสาว ๆ ที่ควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นโยเกิร์ตทั้งแท่ง อร่อยชื่นใจ เอาใจสาวๆมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน
0 Comments
วันนี้มีสูตรการทำขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวามาฝากกันค่ะ เมนูขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา สูตรแป้งนุ่มพ่วงสูตรไส้ครีมไข่เค็มลาวาไหลเยิ้ม และวิธีทำไข่แดงทาหน้าขนม เปิดร้านกันเลยกำไรดีมาก โดยวิธีทำมาพร้อมวิธีทำแป้งชั้นนอกและแป้งชั้นในห่อไส้ครีมไข่เค็มลาวา และทาไข่แดงเพิ่มความสวยงาม พออบเสร็จเอาไปขายได้เลยจ้า ประวัติของ ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็มตามตำนานของคนจีนในเรื่อง ขนมเปี๊ยะ มีการเล่าต่อเรื่องราวมาอย่างหลากหลาย แต่เนื้อเรื่องที่ได้รับความนิยมที่สุด คือ เรื่องของคู่สามี-ภรรยาที่เมื่อแต่งงานกันแล้ว พ่อสามีเกิดล้มป่วยหนักและฐานะทางบ้านก็ยากจนทำให้ไม่มีเงินรักษา สามีภรรยาคู่นี้จึงตอบแทนความกตัญญูด้วยการนำตัวเองไปขายเป็นทาสเพื่อนำเงินมารักษาพ่อสามี จากนั้นทางฝั่งสามีจึงทำทุกวิถีทางเพื่อไถ่ตัวภรรยา จึงได้ทำขนมเปี๊ยะออกขายเพราะสามีเป็นผู้ที่มีฝีมือด้านทำขนมเปี๊ยะมากที่สุด ขนมเปี๊ยะมีรสชาติดีทำให้มีผู้คนอุดหนุนและบอกต่อให้มาซื้อเพื่อช่วยเหลือสามีคนนี้จนสามารถไถ่ตัวภรรยาออกมาได้ จึงถูกเรียกว่าขนม “เหล่าผั่วเปี๊ยะ” ตำนานที่สองกล่าวว่า มีชายคนหนึ่งเดินทางออกจากบ้านไปทำงานอยู่ที่กวางโจว เมื่อครั้นจะกลับบ้านภรรยาได้ยินข่าวจึงคิดทำขนมเปี๊ยะออกมาเพื่อจะเอาใจสามี เมื่อสามีได้ทานถึงกับกล่าวว่ามันวิเศษมาก และก่อนที่จะเดินทางกลับไปทำงานจึงขอให้ภรรยาทำขึ้นมาเพื่อจะนำไปฝากเจ้านายและเพื่อนๆ เมื่อเจ้านายและเพื่อนๆได้ลิ้มรส ก็ทำให้เกิดการติดอกติดใจและเกิดการบอกต่อเป็นตำนานจนได้ชื่อว่า “เตี่ยจิวเหล่าผ่อเปี๊ยะ” ความหมายของขนมเปี๊ยะขนมเปี๊ยะ (餅) เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ความปรารถนาดีต่อกัน และความสมัครสมานสามัคคี ซึ่งความหมายของขนมเปี๊ยะในเทศกาลต่างๆ คือ ความพรั่งพร้อม สมบูรณ์ และความสมหวัง เป็นขนมแห่งความสิริมงคลสื่อถึงความปรารถนาดีระหว่างผู้รับและผู้ให้ ทั้งยังเป็นขนมที่แสดงถึงความสามัคคีกันเพราะในเทศกาลต่าง ๆ ชาวจีนส่วนใหญ่มักจะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวกินขนมเปี๊ยะเพื่อให้เกิดสิริมงคลและนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนเอง ครอบครัว ธุรกิจและกิจการ ชาวจีนจึงมีความเชื่อสืบทอดต่อกันมาว่าในปีหนึ่ง ๆ มักจะมีสิ่งเลวร้าย เรื่องไม่ดีไม่งาม เรื่องอัปมงคลมากระทบ หรือรบกวนการดำเนินชีวิตจนทำให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ ขึ้น เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วย เงินทองไม่คล่อง ทำอะไรก็พบแต่ความยุ่งยาก ทำให้รู้ได้ว่า “ดวงชะตาชีวิต” ไม่ดีนักจึงต้องมีการขวนขวายหาที่พึ่งจึงก่อให้เกิดการไหว้เจ้า การไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ การไหว้บรรพบุรุษและประเพณีอื่น ๆ ขึ้น บนโต๊ะเซ่นไหว้จะประกอบไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ ที่มีความหมายต่าง ๆ กัน ขนมเปี๊ยะจะมีอักษรมงคลสีแดงประทับอยู่กลางขนม แต่ในปัจจุบันนี้พฤติกรรมการซื้อขนมเปี๊ยะนั้นได้เปลี่ยนแปลงแล้ว ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อขนมเปี๊ยะเพียงเพื่อไหว้เจ้าเท่านั้น แต่ผู้บริโภคยังซื้อขนมเปี๊ยะเพื่อเป็นของฝากและเพื่อการบริโภคอีกด้วย ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา สูตรขนมสร้างอาชีพอย่างที่รู้กันดีว่าเมนูขนมเปี๊ยะทั่วไป เช่น ขนมเปี๊ยะไส้ถั่ว ขนมเปี๊ยะไส้เผือก หรือขนมเปี๊ยะไส้มันม่วงใคร ๆ ก็ทำขาย ลองเปลี่ยนมาทำไส้ลาวากันไหม เพราะฉะนั้นเราขอนำเสนอวิธีทำขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา สูตรจาก คุณศิริกัญ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำแป้งชั้นนอกและแป้งชั้นในห่อไส้ครีมไข่เค็มลาวา และทาไข่แดงเพิ่มความสวยงาม อบเสร็จก็เอาไปขายได้เลยค่ะ ง่ายมากๆไม่ต้องไปซื้อกินอีกต่อไปแล้ว ส่วนผสม ไส้ไข่เค็มลาวา ไข่เค็มแดงสุก 18 ฟอง (นำไปเวฟ 1 นาที หรือนำไปนึ่ง) วิปปิ้งครีม 250 กรัม นมข้นหวาน 100 กรัม กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา เกลือ 1/4 ช้อนชา ผงคัสตาร์ด 50 กรัม เนยเค็มละลาย 70 กรัม ส่วนผสม แป้งชั้นใน แป้งอเนกประสงค์ (ตราว่าว) 70 กรัม แป้งเค้ก 30 กรัม น้ำมันพืช 20 กรัม เนยรำข้าว 20 กรัม ส่วนผสม แป้งชั้นนอก แป้งอเนกประสงค์ (ตราว่าว) 120 กรัม แป้งเค้ก 80 กรัม น้ำตาลทราย 35 กรัม เกลือป่น 1/4 ช้อนชา เนยรำข้าว 25 กรัม น้ำมันพืช 25 กรัม น้ำเปล่า 75 กรัม ส่วนผสม ไข่แดงทาหน้าขนม ไข่แดง 1 ฟอง สีผสมอาหารสีเหลือง 1/2 ช้อนชา น้ำเปล่า 1/2 ช้อนชา น้ำมันพืช 3-4 หยด และ งาขาวคั่ว ขั้นตอนที่ 1 : วิธีทำไส้ไข่เค็มลาวา นำไข่เค็มแดงไปนึ่งหรือเข้าไมโครเวฟให้สุก แล้วนำมาบดหยาบ ๆ 👉 นำส่วนผสมทั้งหมดใส่โถปั่นให้ละเอียด 👉 ปั่นส่วนผสมเสร็จแล้วเทใส่กล่องปิดฝา นำไปแช่ช่องแข็งข้ามคืน 👉 หลังจากแช่แข็งข้ามคืนเรียบร้อย วันรุ่งขึ้นใช้ที่ตักไอศกรีม ปั้นเป็นลูก ๆ ขนาด 23 -25 กรัม ประมาณ 28-29 ลูก นำไส้ที่เราปั้นเสร็จแล้วไปแช่ช่องแข็งอีก 30 นาที หลังจากนั้นก็นำมาห่อได้เลยค่ะ ขั้นตอนที่ 2 : วิธีทำไข่แดงสำหรับทาหน้าขนม ผสมไข่แดง หยดสีผสมอาหารสีเหลือง เติมน้ำเปล่า ใส่น้ำมันพืช คนให้เข้ากัน ขั้นตอนที่ 3 : วิธีทำแป้งขนมเปี๊ยะ
แนะนำ เครื่องทำป๊อปคอร์น ทำความร้อนสูงสุด 260 องศาเซลเซียส มีทังรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ แข็งแรง เคลื่อนย้ายได้สะดวก หม้อขนาด 8 ออนซ์ / หม้อขนาด 12 ออนซ์ เครื่องทำป๊อปคอร์น SGE ใช้เวลาในการอบข้าวโพดอบเร็วเพียง 3-5 นาทีเท่านั้น ดีไซน์สวยงาม เพราะกับตั้งขายตามตลาด หรือตามห้างเป็นที่ถึงดูดแน่นอน เช็คโปรโมชั่น เครื่องทำป๊อปคอร์น https://www.sgethai.com/popcorn-machine
ก่อนอื่นเชฟเหน่ง แนะนำ เคล็ดลับการปรุงเนื้อสเต๊ก และเมนูเนื้ออื่นๆ ที่คนรักเนื้อควรรู้ เช่น ถ้าปรุงเป็นสเต๊กเนื้อที่เข้มข้นชุ่มฉ่ำ หลังจากย่างเนื้อจนได้ระดับความสุกที่ต้องการแล้ว ให้นำสเต๊กขึ้นมาพักไว้สักครู่ เพื่อล็อกไม่ให้น้ำในเนื้อไหลออกมา และเนื้อจะดูดซับน้ำกลับเข้าสู่ภายใน จึงจะได้เนื้อสเต๊กที่หวานฉ่ำและเข้มข้นด้วยรสเนื้อ หากนำสเต๊กที่ย่างเสร็จขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นทันทีเราจะเห็นว่าน้ำในเนื้อจะไหลนองอยู่บนจาน ทำให้เนื้อนั้นแห้งและหยาบ เคล็ดลับข้อนี้ห้ามลืมเด็ดขาด เอาล่ะ..เข้าครัวปรุงเนื้อกัน เนื้อทอดน้ำปลา ถ้าหากทำแกงเนื้อกินไปตอนเที่ยงแล้วยังมีเนื้อเหลืออยู่อีกก็จับมาทำเนื้อทอดน้ำปลากินตอนเย็นเสียเลยสิ ขอยกตัวอย่างเนื้อทอดน้ำปลาสูตรจากคุณ swin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กระซิบว่าทำง่ายเว่อร์ หั่นเนื้อวัวเป็นเส้นยาวนำไปหมักกับน้ำปลาและพริกไทย พอครบเวลาก็เอามาทอด โอ้โห... กลิ่นหอมฉุย ถ้าได้กินกับข้าวเหนียวนะ อร่อยล้ำ ส่วนผสม เนื้อทอดน้ำปลา ► เนื้อวัว 500 กรัม ► น้ำปลาอย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ ► พริกไทย ► น้ำมันพืช (สำหรับทอด) วิธีทำเนื้อทอดน้ำปลา 1. หั่นเนื้อวัวเป็นชิ้นยาว ๆ หมักกับน้ำปลาและพริกไทยเคล้าผสมให้เข้ากัน นำเข้าตู้เย็นหมักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง (เนื้อเริ่มจะแห้งเพราะในตู้เย็นมีความชื้นต่ำ ถ้าเอาไปตากแดดก็จะได้เป็นเนื้อแดดเดียว) 2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะให้เยอะพอสมควร นำขึ้นตั้งไฟแรง พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อที่หมักไว้ลงไปทอดทีละครึ่งหนึ่ง ทอดประมาณ 9 นาที 3. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ใส่จานพร้อมเสิร์ฟ แกงเนื้อ เครื่องแกงเข้มข้น เนื้อเปื่อยๆ หลายๆ ครั้งเราไปทานแกงเนื้อข้างนอกแล้วพบว่าเครื่องแกงไม่ค่อยเข้มข้น หรือ ถึงเครื่องเท่าไหร่นัก ส่วนเนื้อก็มีความกระด้าง ไม่เปื่อย นุ่มลิ้นเอาเสียเลย วันนี้เรามีสูตร แกงเนื้อ ที่รับรองถึงเครื่อง และนุ่มลิ้นแน่นวล วัตถุดิบ เนื้อวัว (หั่นเป็นชิ้น) 500 กรัม, พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ, หางกะทิ 300 มิลลิลิตร,หัวกะทิ 300 มิลลิลิตร , น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ,น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ , ใบโหระพา 1 กำมือ , มะเขือเปราะผ่า 4 ส่วน 200 กรัม ,มะเขือพวง,พริกชี้ฟ้าแดง, วิธีทำ ตั้งกระทะ นำเนื้อวัวไปรวนกับหางกะทิ จนเนื้อสุกประมาณ 50 % ให้พักเนื้อวัวไปก่อน ตั้งไฟ ผัดหัวกระทิ 200 กรัม (เหลืออีก 100 กรัมค่อยใส่ตอนหลัง) กับพริกแกง เคี่ยวจนกะทิแตกมัน ใส่หัวกะทิส่วนที่เหลือไปจนหมด จนเดือด ใส่ผักทั้งหมดลงไป ใช้ไฟแรง คนไปเรื่อยๆ จนแกงเริ่มสุกอีกครั้ง ใส่เนื้อลงไป มส่เครื่องปรุงทั้งหมด แล้วชิมรสชาติอีกทีรอบ เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟ เสื้อร้องไห้ เมนูเนื้อแนะนำ วัตถุดิบ เนื้อติดมัน 600 กรัม , ซอสหอย 1 ช้อนโต๊ะ , เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ , ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ , ผงปรุงรส 1/3 ช้อนโต๊ะ , พริกไทย ½ ช้อนชา วิธีทำ นำสากมาทุบๆ เนื้อให้ทั่วๆ เพื่อให้เนื้อไม่เหนียว หมักเนื้อ ด้วยการใส่ เบกกิ้งโซดา ขยำเนื้อเบาๆ ให้เบกกิ้งโซดา เข้าเนื้อ เนื้อจะได้นุ่มๆ ขึ้นไปอีก จากนั้นใส่ส่วนผสมต่างลงไปหมัก ซอสหอย น้ำตาลปี๊บ น้ำมันพืช ผงปรุงรส พริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปแช่ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง เพิ่อให้เครื่องปรุงแทรกซึมเข้าเนื้อได้ดีขึ้น นำเนื้อออกมาย่างไฟอ่อนๆ ให้พอสุก ไม่ให้แห้งจนเกินไป ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว ข้าวหน้าเนื้อ เมนูเนื้อ เด็ดๆ วัตถุดิบ เนื้อวัวแล่บาง 150 กรัม , หอมใหญ่หั่นเสี้ยว 3/4 ถ้วยตวง , ขิงขูด 1 ช้อนโต๊ะ , ซีอิ๊วญี่ปุ่น 3 ช้อนโต๊ะ , สาเก 2 ช้อนโต๊ะ ,มิริน 2 ช้อนโต๊ะ , ดาชิ ¼ ถ้วยตวง , น้ำมันงา 2 ช้อนชา , น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา , ไข่ไก่ 1 ฟอง , ขิงดองสีแดง สำหรับกินคู่ , สาหร่าย สำหรับโรยหน้า , ต้นหอมญี่ปุ่นซอย สำหรับโรยหน้า , พริกป่นญี่ปุ่น สำหรับโรยหน้า , ข้าวสวยญี่ปุ่น วิธีทำ นำซีอิ๊วญี่ปุ่น สาเก มิริน และดาชิ มาผสมกันในชามผสม แล้วพักไว้ ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันงาลงไป เมื่อน้ำมันร้อน ใส่เนื้อวัว และน้ำตาลลงไป ผัดจนเนื้อเกือบสุก แล้วตักขึ้นพักไว้ เปลี่ยนกระทะใหม่ ใส่หอมใหญ่ ขิงขูด และส่วนผสมน้ำซอสที่เตรียมไว้ลงในกระทะ ก่อนผัดให้หอมใหญ่เริ่มนิ่ม จากนั้นต้มต่อให้พอเดือด ใส่เนื้อที่ผัดเตรียมไว้ลงไป ผัดด้วยความเร็วให้พอเข้ากัน ก่อนปิดไฟยกลง สตูว์เนื้อไวน์แดง วัตถุดิบ
เนื้อวัวน่องลาย 500 กรัม , ไวน์แดง 250+125 มิลลิลิตร,น้ำสะอาด 1500 มิลลิลิตร,มะเขือเทศเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะ,แป้งเอนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะแม็คคอร์มิคกริลเมทส์ มอนทรีออลสเต็ก 2 ช้อนโต๊ะ,น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ,เนย 1 ช้อนโต๊ะ,หอมใหญ่ 60 กรัม,แคร์รอท 100 กรัม,มันฝรั่ง 100 กรัม, มันบด,พาร์สลีย์ สำหรับโรยตกแต่ง,น้ำมันรำข้าว สำหรับผัด วิธีทำ
หญ้าเนเปียร์ (Napier Grass) จัดเป็นหญ้าอาหารสัตว์ที่นิยมปลูกมาก เนื่องจาก ลำต้น และใบมีขนาดใหญ่ และมีคุณค่างทางอาหารสัตว์สูง รวมถึงสามารถเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถเก็บเกี่ยวต้นได้ตลอดทั้งปี และเก็บเกี่ยวได้นาน 5-7 ปี ต่อการปลูก 1 ครั้ง หญ้าเนเปียร์ (Napier Grass) คืออะไร? หญ้าเนเปียร์หรือ หญ้าบาน่า จัดเป็นหญ้าอาหารสัตว์ที่นิยมปลูกมาก เนื่องจาก ลำต้น และใบมีขนาดใหญ่ และมีคุณค่างทางอาหารสัตว์สูง รวมถึงสามารถเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถเก็บเกี่ยวต้นได้ตลอดทั้งปี และเก็บเกี่ยวได้นาน 5-7 ปี ต่อการปลูก 1 ครั้ง หญ้าเนเปียร์หรือหญ้าบาน่า เป็นหญ้าที่เติบโตได้ดีในเขตร้อน เป็นพืชที่มีอายุหลายปี ลักษณะลำต้นเป็นกอ ตั้งตรง และขยายพันธุ์ด้วยท่อนพันธุ์เหมือนต้นอ้อย หญ้าเนเปียร์นั้นมีหลายสายพันธุ์ โดยหญ้าเนเปียร์ธรรมดาและเนเปียร์ลูกผสม เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงถึง 4 เมตร อย่างไรก็ตามหญ้าเนเปียร์จะมีการแตกกอมากกว่า มีส่วนของใบเยอะกว่าและออกดอกก่อนพันธุ์อื่น ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ชนิดและพันธุ์หญ้าเนเปียร์ มีอะไรบ้าง?
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum King grass ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นสูง แตกกอง่าย ใบและลำต้นมีขน ให้ผลผลิตต่อไร่สูง 10-60 ตัน/ไร่/ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และน้ำ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum cv. Mott ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นเตี้ย แตกกอง่าย เป็นพุ่ม ใบ และลำต้นมีขน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum x pennisetum americanum พันธุ์ดั้งเดิม : หญ้าเนเปียร์ยักษ์ และหญ้าไข่มุก หน่วยงานพัฒนาสายพันธุ์ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ โคราช กรมปศุสัตว์ ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นสูงใหญ่ เหมือนเนเปียร์ยักษ์ ลำต้นอวบ และออกเขียวอ่อน ใบ และลำต้นไม่มีขน ลดการคันขณะเก็บเกี่ยว ให้ผลผลิตเหมือนกับหญ้าเนปียร์ยัก ผลผลิตต่อไร่สูง 10-60 ตัน/ไร่/ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และน้ำ ประโยชน์ของหญ้าเนเปียร์1. ใช้ปลูกเพื่อเป็นอาหารสัตว์ โดยเฉพาะโคเนื้อ โคนม และกระบือ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการให้กินสด และการทำหญ้าหมัก 2. ใช้เป็นชีวะมวล สำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า 3. ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน 4. ลำต้นใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ 5. ลำต้นนำมาสับ และอัดเป็นแท่ง สำหรับเป็นเชื้อเพลิงหุงทำอาหาร 6. หญ้าเนเปียร์มีโปรตีนสูง และให้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าหญ้าทุกสายพันธุ์ เหมาะสำหรับใช้เป็นอาหารสำหรับวัวขุน โคขุน และวัวชนทุกระยะ โปรโมชั่นวันนี้ สแลนกันแดด ม้วนละ 645 บาท เท่านั้น มีทั้งสีดำ และ สีเขียว สแลนกันแดดของเรา เหนียว ทนทาน ไม่ขาดง่าย ใช้งานได้นาน มีให้เลือกหลากหลายไซต์ตอบโจทย์การใช้งานทั้ง เกษตร ไซต์งาน โรงจอดรถ
วันหยุดแต่ละที อยากทำอาหารสำหรับคนพิเศษ อยากจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ ในครอบครัว คงจะไม่มีเมนูไหนที่น่าสนใจเท่า “พิซซ่า” อีกแล้ว เพราะทำครั้งเดียวได้ปริมาณเยอะ และหน้าตาดูน่ารับปนะทานอีกด้วย วิธีทำพิซซ่า ก็ไม่ยากเลย แอดมินขอแนะนำ “วิธีทำพิซซ่า” แบบโฮมเมด มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ พิซซ่าง่าย ๆ ใส่เครื่องแบบจัดเต็ม มีทั้งแป้งบางกรอบ แป้งหนานุ่ม จะทำถาดใหญ่ หรือชิ้นพอดีคำ ก็ตามชอบ อบเสร็จก็พร้อมเสิร์ฟ อร่อย อิ่ม เกินห้ามใจ พิซซ่า คืออะไร?พิซซ่า(pizza) เป็นอาหารอิตาลี และอาหารจานด่วนประเภทหนึ่ง ที่ชาวอิตาลีเป็นผู้คิดค้น มีลักษณะเป็นแป้งแผ่นกลมแบน ราดด้วยซอสมะเขือเทศ แล้วทำให้สุกโดยการอบในเตาอบ และยังมีหลากหลายหน้าให้เลือกสรรค์ตามใจชอบ ประเภทของพิซซ่า : พิซซ่าโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Neapolitan-style คือ พิซซ่าที่มีขอบขนมปังค่อนข้างหนา ซึ่งพิซซ่าอเมริกัน ก็ดัดแปลงมาจากสูตรนี้ Roman-style คือ พิซซ่าแป้งบาง ขอบบางกรอบ ต้นตำรับมาจากกรุงโรม และภูมิภาคลาซิโอของอิตาลี แป้งของพิซซ่า : แป้งพิซซ่ามีทั้งแบบแป้งหนานุ่ม และแป้งบางกรอบ ส่วนผสมหลัก ๆ จะมีแป้งขนมปัง และแป้งสาลีอเนกประสงค์ หรือจะใช้แป้งอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ถ้าอยากได้แป้งพิซซ่าหนานุ่ม ให้รีดแป้งไม่บางเกินไป ยังมีความหนาตามต้องการ แต่ถ้าอยากได้แป้งพิซซ่าบางกรอบ ให้รีดแป้งเป็นแผ่นบาง ๆ นั่นเอง พิซซ่าต้มยำทะเลพริกเผาเมนูพิซซ่าแบบลูกครึ่งสูตรจากคุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ผสมความเป็นไทยกับอิตาเลียนเข้าด้วยกัน เกิดเป็นเมนูพิซซ่าต้มยำทะเลพริกเผา ฟิวชั่นกันได้อย่างลงตัวสุด ๆ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินหลายร้อยก็สามารถทำพิซซ่าอร่อย ๆ กินเองได้ ส่วนผสมพิซซ่าต้มยำทะเลพริกเผา • น้ำพริกเผาต้มยำ (ยี่ห้อ aro ของแมคโคร) 1/2 ช้อนโต๊ะ • หอมแดงซอย • มะเขือเทศราชินี • ใบมะกรูดฉีก • ข่าหั่นหยาบ ๆ • ตะไคร้ทุบพอแตก (จะใส่ตอนผัดให้ได้กลิ่นเท่านั้นจะไม่ใส่ในพิซซ่า) • กุ้ง • เนื้อหอยแมลงภู่ • ปลาหมึก • แผ่นแป้งสาลีตอติญ่า (ยี่ห้อ Danitas ซื้อที่ฟู้ดแลนด์) • มอสซาเรลล่าชีสขูดฝอย • ใบมะกรูดสับละเอียด (สำหรับโรยหน้า) วิธีทำพิซซ่าต้มยำทะเลพริกเผา 1. ผัดน้ำพริกเผากับน้ำมันน้ำพริกเผากับหอมแดงซอย มะเขือเทศราชินี ใบมะกรูด ข่า และตะไคร้ พอหอม ใส่กุ้ง หอยแมลงภู่ และปลาหมึก ลงไปคลุกเคล้าพอสุกประมาณ 80% (เพราะเมื่อนำไปอบจะเสียน้ำทำให้เนื้อสัตว์แห้งเกินไป) 2. ตักตะไคร้กับข่าออกจากเครื่องที่ผัดไว้แล้วตักวางบนแผ่นตอติญ่า โรยมอสซาเรลล่าชีสในปริมาณตามชอบ 3. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 6 นาที (หรือจนชีสเป็นสีเหลืองทองน่ารับประทาน) นำออกจากเตา โรยด้วยใบมะกรูดสับละเอียด ตัดแบ่งเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ พิซซ่ากระทะ สำหรับใครที่ไม่มีถาดอบพิซซ่าไม่ต้องไปหาซื้อให้วุ่นวาย แค่มีกระทะใบเดียวก็ใช้การได้แล้ว ขอแนะนำพิซซ่ากระทะสูตรจาก We Homemade จับแป้งพิซซ่าใส่กระทะแล้วนำเข้าไปอบ หน้าตาแจ่มว้าวมาก ๆ ยิ่งถ้าชีสเยิ้มด้วยแล้ว ณ วินาทีนี้ใครจะชวนไปไหนก็ไม่ไปทั้งนั้น จริงไหม ? ส่วนผสม แป้งพิซซ่า (ขนาด 9 นิ้ว จำนวน 4 ชิ้น) • ยีสต์ 2 ช้อนโต๊ะ • น้ำอุ่น 350 มิลลิลิตร • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม • เกลือ 1/2 ช้อนชา • น้ำมันมะกอก (สำหรับทามือไม่ให้แป้งติดมือ) ส่วนผสม เครื่องพิซซ่า • น้ำสต๊อกไก่ (หรือผงปรุงรส) • มะเขือเทศสด 1 กิโลกรัม • เนยสดละลาย • หอมใหญ่สับ 1-2 ลูก • กระเทียม • มะเขือเทศเข้มข้น 1 กระป๋อง • เกลือป่น • พริกไทยป่น • ออริกาโน่ • ใบไทม์ • มอสซาเรลล่าชีสขูด • เบคอน • แฮม • สับปะรด • พริก • ไส้กรอก • เปปเปอโรนี วิธีทำแป้งพิซซ่า 1. ใส่ยีสต์ลงในน้ำอุ่น คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไป พักทิ้งไว้ 2-3 นาที (สังเกตดูถ้าเริ่มมีฟองขึ้น แสดงว่ายีสต์เริ่มทำงาน อย่าใส่น้ำร้อนจัดไม่อย่างนั้นยีสต์จะตาย ถ้ามีกลิ่นก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติ) 2. ใส่เกลือป่นลงในแป้งสาลีอเนกประสงค์ จากนั้นเทส่วนผสมยีสต์ลงไปผสมให้เข้ากัน คนผสมสักพักจนแป้งเริ่มหนืดแล้วใช้มือนวดแป้ง เวลานวดแป้งพิซซ่าให้ทาน้ำมันมะกอกที่มือ (น้ำมันมะกอกจะช่วยให้แป้งโดว์ไม่ติดมือ) และโรยแป้งลงบนแป้งโดว์และบนโต๊ะที่จะใช้นวดแป้งด้วย ออกแรงนวดแป้งจนยืดและเนียนดี (ช่วงแรกแป้งจะเหนียวติดมือในขณะนวด 3. ทิ้งไว้จนขึ้นฟู (โรยแป้งบนภาชนะที่หมักแป้งด้วยนิดหน่อย เพราะแป้งเราจะขยายตัว) ประมาณ 1 ชั่วโมง ใช้ผ้าหรือพลาสติกถนอมอาหารมาคลุมปิดไว้ วิธีทำพิซซ่ากระทะ 1. ต้มน้ำสต๊อกให้เดือดแล้วใส่มะเขือเทศลงไปต้มสักครู่ นำขึ้นจากหม้อแล้วลอกเปลือกออก จากนั้นนำไปหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ (เวลาเราเคี่ยวจะได้ง่ายขึ้น) 2. ผัดเนยกับหอมใหญ่สับจนเหลืองหอมแล้วใส่มะเขือเทศลงไปเคี่ยวให้เดือด จากนั้นใส่มะเขือเทศเข้มข้นลงไป ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่น จากนั้นใส่ใบไทม์ลงไป (ถ้าต้องการความหวานก็สามารถใส่น้ำตาลทรายลงไปได้) เคี่ยวจนส่วนผสมข้นดี เตรียมไว้ทาหน้าพิซซ่า 3. นำแป้งพิซซ่าไปคลึงในกระทะแบนให้เป็นแผ่นกลม ๆ จนเต็มกระทะ 4. ใส่ซอสพิซซ่าที่เราทำเตรียมไว้ทาให้ทั่ว ๆ โรยมอสซาเรลล่าชีสลงไป ตามด้วยเบคอน แฮม สับปะรด พริก ไส้กรอก และเปปเปอโรนี จากนั้นโรยมอสซาเรลล่าชีสกับซอสพิซซ่าเพิ่มตามชอบ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 220 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 10 นาที จนชีสเริ่มไหม้ก็ใช้ได้ (หรือจะอบโดยนำไปตั้งบนเตาแก๊สก็ได้ นำออกจากเตาอบ) พร้อมเสิร์ฟ พิซซ่าดับเบิลชีสโฮมเมดเอาใจคอชีสที่อยากกินพิซซ่าอัดชีสเต็ม ๆ กับพิซซ่าดับเบิลชีสโฮมเมดสูตรจากคุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับชีสใส่ลงไปบนแป้งพิซซ่าเยอะ ๆ ตามชอบเลยจ้า ชอบมากใส่มาก ชอบน้อยก็ใส่มากเข้าไว้ เสร็จแล้วเอาไปอบร้อน ๆ พอชีสเริ่มเกรียมปั๊บก็เอาออกมาหั่นชิ้น คว้าเข้าปากเคี้ยวสบายใจเฉิบเลยจ้า ส่วนผสม พิซซ่าดับเบิลชีสโฮมเมด • แป้งขนมปัง 200 กรัม • ยีสต์ 1 1/2 ช้อนชา • นมสด (หรือน้ำเปล่า) 140 กรัม • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ • น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันรำข้าว) 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำพิซซ่าดับเบิลชีสโฮมเมด 1. ผสมแป้งขนมปังกับยีสต์ให้เข้ากัน จากนั้นก็ทำหลุมบนแป้ง เตรียมไว้ 2. นำนมสดไปอุ่นในไมโครเวฟพออุ่น ๆ จากนั้นใส่เกลือป่นลงไปในนมคนผสมให้เข้ากัน เทนมอุ่นลงไปในหลุมแป้ง ใช้มือกวนผสมสัก 2-3 ที ใส่น้ำมันมะกอกลงไป นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ พักแป้งให้โดว์ให้ขึ้นเป็น 1 เท่า นานประมาณ 30-50 นาที จากนั้นนำแป้งที่โดว์มานวดอีกครั้ง แล้วรีดให้แบน หนาประมาณ 1 เซนติเมตร เตรียมไว้ 3. ถาดที่ใส่สำหรับอบพิซซ่าใช้ขนาด 9x9 นิ้ว ทาพิมพ์ด้วยเนย (หากไม่มีเนยก็ทาด้วยน้ำมันพืช) เพื่อไม่ให้แป้งติดพิมพ์ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีสขูดตามชอบ 4. นำเข้าเตาอบใช้ไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 185 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที (ตามขนาดของเตาอบ เวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยใช้วิธีสังเกต) หรือใช้ไฟล่างที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 12 นาที จากนั้นใช้ไฟบน-ล่างอีก 5 นาที เพื่อให้หน้าพิซซ่าเกรียมนิด ๆ ก็ได้ ใช้มีดตัดเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ ที่มา cooking.kapook.com แนะนำ เตาอบไฟฟ้า เตาอบขนม อบขนมปัง อบอาหารได้ทุกชนิด ราคาเริ่มเพียง 990 บาท เป็นเตาอบที่ใช้ในระดับครัวเรือนไปจนถึงเตาอบไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตที่สูงอย่างเตาอบไฟฟ้าอุตสาหกรรม เริ่มต้นเพียง 18,500 พร้อมประกัน 1 ปี มีทีมงานช่างซ่อม เตาอบขนมปังคุณภาพ ทำให้คุณเพลิดเพลิน และอร่อยไปกับการทำอาหาร จนทำให้คุณไม่อยากออกจากครัว สนใจดูเตาอบไฟฟ้าได้ที่ SGETHAI
หากใครตามหาสูตรการทำ พานาคอตต้า ที่สามารถทำทานเองได้ที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องไปร้านคาเฟ่ เพื่อซื้อทานในราคาแพง SGE มีวิธีการทำมาฝาก พร้อมสูตรสุดครีเอท ที่จะทำให้พานาคอตต้าของคุณไม่เหมือนใคร หากพร้อมทำกันแล้ว ผูกผ้ากันเปื้อนให้แน่น แล้วมาลุยกันเลย ประวัติความเป็นมา พานาคอตต้า ไม่ได้มีหลักฐานบันทึกประวัติความเป็นมาใน ตำราอาหารอิตาเลี่ยน ในช่วงก่อนคริสต์ทศวรรษที่ 1960 แต่ถูกอ้างว่าเป็นขนมสูตรดั้งเดิมของแคว้นพีดมอนต์ ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ถูกบันทึกในรายชื่อผลิตภัณฑ์อาหารดั้งเดิมของแคว้น มีเนื้อหาว่าสูตรดั้งเดิมนั้นต้องมีการใส่บรั่นดีลูกท้อ และจัดเสิร์ฟแบบไม่มีซอส หรือเครื่องอื่น ๆ ทั้งยังมีเรื่องเล่าถึงที่มาของ เบเกอรี่ ชิ้นนี้ว่า ถูกคิดค้นโดยหญิงสาวชาวฮังการีในแถบลันเกในต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1990 ประโยชน์ของ พานาคอตต้า การรับประทาน พานาคอตต้า นอกจะได้รับความอร่อยแสนสดชื่นแล้ว ยังได้รับประโยชน์ที่มากมายจาก วัตถุดิบคุณภาพ ที่เลือกใช้ ยกตัวอย่าง เจลาตินที่อุดมไปด้วยโปรตีน และกรดอะมิโนหลายชนิดที่ดีต่อร่างกาย ช่วยในเรื่องการซ่อมแซม และฟื้นฟูร่างกาย เพิ่มคอลลาเจนในข้อต่อ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง บำรุงสมอง ผิว และเส้นผม ทั้งยังเหมาะกับคนที่กำลังทาน อาหารควบคุมน้ำหนัก และน้ำตาล รวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากผลไม้นา ๆ ชนิดอีกด้วย พานาคอตต้าสตรอว์เบอร์รี่ พานาคอตต้า สตรอว์เบอร์รี่ ถือเป็นรสชาติยอดฮิตที่คนนิยมทานมากที่สุด เพราะด้วยมีทั้งรสชาติเปรี้ยวและหวาน อยู่ในผลไม้เดียว แถมยังมีสีแดงซึ่งตัดกับเนื้อพุดดิ้งสีขาว เมื่อทำออกมาแล้ว จึงมีความสวยงามน่ารับประทานมาก ๆ เรียกได้ว่า กินก็อร่อย ถ่ายรูปออกมาก็สวย ส่วนผสมซอสสตรอว์เบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ 200 กรัม น้ำตาลทราย 80 กรัม ส่วนผสมพานาคอตต้า วิปปิ้งครีม 100 กรัม (สำหรับต้ม) น้ำตาล 22 กรัม เจลาติน 1 ช้อนชา น้ำ 15 กรัม กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา วิปปิ้งครีม 100 กรัม วิธีทำซอสสตรอว์เบอร์รี่ ใส่สตรอเบอร์รี่ 200 กรัม ลงในหม้อ แล้วเทน้ำตาลทราย 80 กรัมลงไป ตั้งไฟใช้ไฟกลาง ค่อย ๆ ต้มและเคี่ยว ใช้ช้อนคนเรื่อย ๆ และบี้ เพื่อให้เนื้อสตรอว์เบอร์รี่นิ่ม ละลายเข้ากันกับน้ำตาล ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที (ถ้าเป็นสตรอเบอร์รี่แห้ง ให้ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นแบบแช่แข็ง ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่ม) ใช้เครื่องปั่น ปั่นเนื้อสตรอว์เบอร์รี่ในหม้อให้ละเอียด เสร็จแล้ว พักไว้ให้เย็น (ถ้าอยากให้มีเนื้อสตรอว์เบอร์รี่ ไม่ต้องใช้เครื่องปั่น) วิธีทำพานาคอตต้า ใส่น้ำเย็น 15 กรัมลงในถ้วย แล้วใส่เจลาติน 1 ช้อนชา เสร็จแล้วพักทิ้งไว้ เตรียมหม้อต้ม ใส่วิปปิ้งครีมลงไป 100 กรัม น้ำตาล 22 กรัม เปิดไฟอ่อน ใช้ไม้พายซิลิโคน ค่อย ๆ คนให้น้ำตาลละลาย แล้วใส่กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน พอเนื้อครีมร้อนดีแล้ว ให้ปิดเตา แล้วใส่เจลาตินที่อิ่มน้ำแล้วลงไป คนให้ละลายเข้ากันกับเนื้อครีม เสร็จแล้ววางพักไว้ ให้ครีมเย็นตัวลง ใส่วิปปิ้งครีม 100 กรัม ลงในชามผสม ใช้เครื่องตีแป้ง ตีวิปปิ้งครีม จนเนื้อครีมขึ้นฟู ให้พอตั้งยอดอ่อน โดยให้สังเกตว่า มีวิปปิ้งครีมจับตัวที่ปลายตะกร้อ และตั้งยอดอ่อนหรือไม่ ถ้ามียอดอ่อน แสดงว่าใช้ได้แล้ว ค่อย ๆ เทเนื้อครีมลงไปผสมกับวิปปิ้งครีม ทีละน้อย ๆ แล้วใช้ไม้พายคนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว เตรียมถ้วยขนาดเล็ก แล้วเทเนื้อครีมลงไป 3/4 ถ้วย จากนั้น นำซอสสตรอว์เบอร์รี่ หยอดไว้ด้านบน ตกแต่งด้วยใบมิ้นท์เล็กน้อย เป็นอันเสร็จ วิธีทำ “พานาคอตต้า ราสป์เบอร์รีซอส”ตัวพานาคอตต้าจะมีรสชาติหอมมัน หวานอ่อน ๆ นุ่มนิ่มเหมือนเป็นพุดดิ้งนมเลยละค่ะ กินคู่กับซอสราสป์เบอร์รีที่มีรสชาติเปรี้ยวนำ ตัดกับความมันของครีมได้ลงตัวสุด ๆ ฉพวัตถุดิบ ราสเบอร์รี่แช่แข็ง 200 กรัม น้ำตาลทราย 100 กรัม (สำหรับทำซอส) วิปปิ้งครีม 360 กรัม น้ำตาลทราย 60 (สำหรับทำพานาคอตต้า) กรัม เจลาตินแช่น้ำ (ชนิดแผ่น) 2 แผ่น น้ำสะอาด 1 ช้อนโต๊ะ นมสด 120 กรัม วานิลลา 1 ช้อนชา วิธีทำ STEP 1 : ทำพานาคอตต้า แช่เจลาตินในน้ำเย็น พักไว้ ใส่วิปปิ้งครีม นมสด น้ำตาลทราย เข้าด้วยกัน เปิดไฟอ่อนตั้งไฟพอน้ำตาลละลาย ใส่วานิลลา และเจลาตินที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันจนเจลาตินละลายดี จากนั้นนำไปกรองด้วยกระชอน ตักใส่ภาชนะ พักไว้ให้เย็นสนิท จากนั้นนำพาสติกแร๊ปปิดหน้าพานาคอตต้าของเราไว้(เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าขนมแห้ง) นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา 2 ชั่วโมง STEP 2 : ทำซอสราสป์เบอร์รี ทำซอสราสเบอร์รี่โดยใส่ราสเบอร์รี่แช่แข็งและน้ำตาลลงไปในหม้อ เปิดไฟเบาตั้งไว้จนราชเบอร์รี่ละลายและเดือดเล็กน้อย พอซอสข้นได้ที่แล้วนำออกจากเตา เทใส่กระชอนกรองซอสให้ละเอียด และพักไว้ให้เย็น STEP 3 : จัดเสิร์ฟ นำพานาคอตต้าออกจากตู้เย็น ราดซอสราสเบอร์รี่ที่เตรียมไว้ ตกแต่งด้วยผลไม้ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ Cr.wongnai.com/recipes/panna-cotta-raspberry-sauce-homemade พานาคอตต้าบลูเบอร์รี่ นอกจากสตรอเบอร์รี่ที่นิยมนำมาทำ พานาคอตต้า ก็มีบลูเบอร์รี่นี่และ ที่เป็นขาประจำอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งด้วยรสชาติที่เปรี้ยว ทำให้ตัดรสกับพุดดิ้งนมสดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าจะให้อร่อย แนะนำให้ทำซอสแบบมีเนื้อบลูเบอร์รี่อยู่ด้วย จะช่วยเพิ่มรสสัมผัสและความอร่อยให้มากขึ้น ส่วนผสมซอสบลูเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ 150 กรัม น้ำตาลทราย 50 กรัม น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมพานาคอตต้า วิปปิ้งครีม 320 กรัม นมสด 140 กรัม น้ำตาลทราย 80 กรัม กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา เจลาติน 2 แผ่น น้ำเย็น วิธีทำซอสบลูเบอร์รี่ ใส่บลูเบอร์รี่ 150 กรัม ลงในหม้อ แล้วเทน้ำตาลทราย 50 กรัม น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ ลงไป ตั้งไฟใช้ไฟกลาง ค่อย ๆ ต้มและเคี่ยว ใช้ช้อนคนเรื่อย ๆ และบี้ เพื่อให้เนื้อบลูเบอร์รี่นิ่ม ละลายเข้ากันกับน้ำตาล ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที เสร็จแล้ว เทใส่ขวดโหล พักไว้ให้เย็น วิธีทำพานาคอตต้า ใส่น้ำเย็นลงในจาน นำเจลาติน 2 แผ่นมาแช่น้ำ เตรียมหม้อต้ม ใส่วิปปิ้งครีม 320 กรัม นมสด 140 กรัม น้ำตาลทราย 80 กรัม กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา ลงไป นำไปต้ม เปิดไฟกลาง ใช้ไม้พายซิลิโคน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และน้ำตาลละลายจนหมด พอร้อนได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ ยกหม้อลงได้ ใส่แผ่นเจลาติน 2 แผ่นที่แช่น้ำไว้ลงไป คนให้เจลาตินละลาย จากนั้น เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วใช้กระชอนกรองเอากากออก เทใส่แก้วเล็กที่เตรียมไว้ 3/4 ถ้วย จากนั้น นำไปแช่เย็น 2 – 3 ชั่วโมง ตักซอสบลูเบอร์รี่ที่เย็นแล้ว ไว้ด้านบนเนื้อครีม ตกแต่งด้วยใบไม้สีเขียว ไว้ด้านบนให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ จำหน่าย เครื่องตีแป้ง / เครื่องผสมอาหาร ตั้งแต่ 5 - 10 ลิตร มีทั้งเครื่องตีแป้งแบบมือถือที่ราคาเริ่มที่ 990 จนถึง เครื่องผสมอาหารระดับอุตสาหกรรม โดยเครื่องตีแป้งประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า ที่เป็นมอเตอร์ทองแดง ทนทาน ปรับความเร็วได้หลายระดับ ในส่วนของ เครื่องตีแป้ง อุตสาหกรรรมมาพร้อมถังปั่นแสตนเลส 304 ขนาด 40-60 ลิตร ราคาไม่แพงอีกด้วย เช็คราคาและโปรโมชั่นเครื่องตีแป้ง พานาคอตต้า รสช็อกโกแลต ใครชอบทานช็อกโกแลต ห้ามพลาด กับ พานาคอตต้า สูตรช็อกโกแลต ที่ผสานรสชาติไว้ได้อย่างลงตัว โดยการนำเอาดาร์กช็อกโกแลตมาทำเป็นเนื้อครีม ซึ่งถ้าใครอยากตกแต่งให้สวยงาม สามารถใช้เครื่องตีแป้ง ตีวิปครีมให้ตั้งยอดอ่อน แล้วหยอดไว้เป็นชั้นบาง ๆ ด้านบน ตกแต่งด้วยผลไม้อย่าง สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ หรือช็อกโกแลต ก็ได้ตามชอบ ก็จะช่วยให้พานาคอตต้าแก้วนี้ มีรสชาติเพิ่มมากขึ้น
ส่วนผสม ดาร์กช็อกโกแลต 80 กรัม วิปปิ้งครีม 200 กรัม วิปปิ้งครีม (สำหรับตกแต่ง) นมสด 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 20 กรัม กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา เจลาติน 4 กรัม น้ำเย็น 1 ½ ช้อนโต๊ะ สตรอว์เบอร์รี่ คุกกี้ ใบมิ้นท์ วิธีทำ ใส่เจลาติน ลงในถ้วยขนาดเล็ก แล้วใส่น้ำเย็น 1 ½ ช้อนโต๊ะ ลงไป ให้เจลาตินอิ่มน้ำ เตรียมหม้อต้ม ใส่วิปปิ้งครีม 200 กรัม น้ำตาลทราย 20 กรัม กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา ลงไป แล้วนำไปต้ม เปิดไฟกลาง ใช้ไม้พายซิลิโคน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และน้ำตาลละลายจนหมด พอร้อนได้ที่ จนมีไอร้อนขึ้นมาแล้ว ให้ปิดไฟ ยกหม้อลงได้ ใส่เจลาติน ที่อิ่มน้ำแล้วลงไป ตามด้วยดาร์กช็อกโกแลต ที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ คนให้เจลาตินและดาร์กช็อกโกแลตละลาย จากนั้น เทนมสด 3 ช้อนโต๊ะลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่แก้วเล็กที่เตรียมไว้ 3/4 ถ้วย จากนั้น นำไปแช่เย็น 2 – 3 ชั่วโมง ใช้ตะกร้อมือหรือเครื่องตีแป้ง ตีวิปครีมให้พอตั้งยอดอ่อน จากนั้น เทลงในแก้วเป็นชั้นบาง ๆ ตกแต่งด้วยสตรอเบอร์รี่ ใบมิ้นท์ และคุกกี้ ไว้ด้านบนให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ พอดีกำลังหาซื้อเครื่องซีลสูญญากาศขนาดใหญ่ดีๆ ซักเครื่องเพื่อใช้ซีลสูญญากาศสำหรับเก็บอาหาร แปรรูปอาหาร เลยลอง Research หาข้อมูลไว้เยอะมากๆ เลยเอามาลง Blog เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลไว้เสียหน่อย โดยจากที่ลองค้นข้อมูลเครื่องซีลสุญญากาศ อุตสาหกรรรม ราคาไม่เกิน 30,000฿ หลายๆ ยี่ห้อพบว่า Spring Green ค่อนข้างจะตอบโจทย์มากกว่า ถ้าคิดว่าจะใช้งานหนักๆ ต้องการกำลังผลิตต่อวันที่ค่อนข้างเยอะ ไม่แนะนำที่ราคาหลักพันต้นๆ ผมแนะนำเพิ่มเงินซื้อที่ราคา 20000+ จะดีกว่าเพราะใช้งานได้นานกว่าแน่นอน โดยยี่ห้อที่แนะนำคงจะหนีไม่พ้นของ Spring Green Evolution เนื่องจากทางสปริงกรีนถือเป็นเจ้าใหญ่ๆ ในตลาดเครื่องซีลมานาน รู้จักกับการซีลสูญญากาศคืออะไรการบรรจุภัณฑ์ให้อยู่ภายใต้สุญญากาศ ทำโดยการใช้ เครื่องซีลสูญญากาศ ดึงเอาอากาศภายในภาชนะหรือภายในผลิตภัณฑ์ออกไป และซีลปิดผนึกไม่ให้อากาศเข้าไปได้อีก ส่งผลให้ระดับออกซิเจนภายในมีปริมาณลดลงกว่าปกติ จะสังเกตได้ว่ามีการหด งอตัวของถุงสูญญากาศที่บรรจุแนบชิดกับตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ต้องใช้ออกซิเจนในการดำรงชีวิต ตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเน่าเสียของอาหาร เช่น พวกแบคทีเรีย กับเชื้อรา และช่วยลดปฏิกิริยา ออกซิเดชั่นในอาหาร จึงลดการเกิดการเหม็นหืนและการเปลี่ยนสี ทำให้คงความสดใส ยืดอายุการเก็บรักษา ถูกหลักอนามัยและคงรสชาติเดิมของอาหาร โดยยืดอายุของอาหารได้นานมากกว่า 3-5 เท่า จากปกติ ประโยชน์ของการใช้ เครื่องซีลสูญญากาศ ประโยชน์ของการใช้ เครื่องซีลสูญญากาศช่วยป้องกันการเน่าเสียของอาหารจากจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่ต้องการออกซิเจน สามารถเก็บถนอมอาหารและเก็บรักษาสินค้าได้นานยิ่งขึ้น ช่วยให้อาหารสดใหม่ในช่องแช่แข็งได้นานถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับวิธีการเก็บรักษาทั่วไป ป้องกันกลิ่นและรสชาติอาหารได้อย่างดีเยี่ยม ลดขนาดพื้นที่สะดวกต่อการขนส่ง เช่น ซีลหมอนยางพารา,ตุ๊กตาแมวน้ำอุ๋งๆ,แพ็คเสื้อผ้า ป้องกันเอกสารสำคัญและอุปกรณ์อิเลกทรอนิคส์ให้ปลอดภัยจากความชื้น สามารถใช้ได้กับสินค้าหลายประเภท เช่น อาหารแห้ง ข้าวสาร เครื่องเทศ อาหารแปรรูป เนื้อสัตว์ ลูกชิ้น ผัก ผลไม้ รวมถึงอุปกรณ์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ เครื่องเงิน เอกสารสำคัญ และหนังสือ เป็นต้น รุ้จักกับเครื่องซีลสุญญากาศแบบห้อง เครื่องซีลสูญญากาศ อุตสาหกรรม แบบห้อง เครื่องvacuum VCE เป็นเครื่องซีลอีกประเภท หลักการทำงานของเครื่องนี้คือ จะให้ พื้นที่ภายในทั้งหมดของห้องซีล เป็นสูญญากาศ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าเครื่องซีลในลักษณะนี้จะทำให้ภายใน เป็นสูญญากาศได้ 100% สามารถใช้ได้กับ อาหารได้หลากหลายประเภท เช่น ของแห้ง ของเปียก ของลักษณะผง หรือ กระทั่งของที่เป็นซอสเหลวต่างๆ เป็นเครื่องแบบตั้งโต๊ะ กะทัดรัด ประหยัดเนื้อที่ เครื่องซีลสุญญากาศ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ดูดอากาศออกจากถุงเพื่อให้อาหารภายในถุงนั้นไร้ซึ่งอากาศภายใน ช่วยยับยั้งการเติมโตของแบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์เชื้อโรคอื่นๆ ทำให้อาหารส่วนใหญ่เสื่อมสภาพช้าลงและเน่าเสียช้าลง เก็บได้นานขึ้น ยืดอายุ Shelf-Life เครื่องซีลสุญญากาศ รุ่น VC99 เครื่องซีลถุงสุญญากาศ ระดับอุตสาหกรรม VC99 ที่สุดของเครื่องซีลในด้านความเร็ว เครื่องรุ่น VC99 เป็นอีกความภาคภูมิใจของเรา ด้วยฟังค์ชั่นการทำงานที่สารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะ ซีลสุญญากาศ อัดแก๊สไนโตรเจน ซีลบลอคข้าว ซีลถุงอื่นๆได้ทุกประเภท รวมไปถึง การตั้งค่าการทำงานแบบอัตโนมัติ นวัตกรรมของการเก็บรักษาอาหารได้ถูกรวมไว้ในเครื่องนี้ ดังนั้นธุรกิจที่มีกำลังการผลิตในเชิงพาณิชย์ จึงเลือกใช้ VC99 มาเป็นอันดับหนึ่ง ยี่ห้อ / รุ่น : VC99
ข้อดี ✓ สั่งการใช้งานผ่านทางเท้า (Foot Pedal) เพื่อให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการ จัดเรียงสินค้าในถุง ได้มากขึ้น ✓ มีระบบรองรับการซีลสินค้าที่มีส่วนประกอบของ ของเหลว เช่น ไส้กรอกที่มีน้ำ สามารถแพ็คซีลปิดถุงได้ทั้งอาหารแห้งและมีน้ำ (มีระบบแท็งค์รองรับน้ำส่วนเกิน) ✓ รองรับการใช้งานร่วมกับไฟบ้าน 220v ไม่จำเป็นต้องตัดต่อสายไฟ เพียงเสียบปลั๊กพร้อมใช้งานทันที ✓ เครื่องซีลถุงสูญญากาศ ที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุดในตลาดตอนนี้ (4-5 ถุง/นาที) ✓ มีระบบอัดไนโตรเจนสำหรับอาหารที่มีการแตกหักง่าย สามารถปรับเวลาในการอัดแก๊สไนโตรเจนได้อย่างอิสระ✓ การใช้งานสุดง่าย เพียงแค่ตั้งค่าและกดฝาครอบใสลง เครื่องจะทำงานเองโดยอัตโนมัติ ✓ หน้าจอควบคุมใช้งานง่าย สามารถปรับระดับทุกอย่างได้ดั่งใจ ✓ มีระบบการจดจำการตั้งค่าล่าสุดและระบบนับจำนวนถุงได้อีกด้วย ข้อเสีย ✘ ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแวคคั่ม (Vacuum Pump) ทุกๆ 3 เดือน ✘ ไม่สามารถซีลสินค้าที่เป็นผงได้ ราคาเพียง 24,500 บาท เครื่องซีนสุญญากาศ VCE 26 เครื่องซีลสูญญากาศ อุตสาหกรรม ที่ทำงานได้ครอบจักรวาลที่สุดในตอนนี้สามารถซีลสูญญากาศได้กับของทุกชนิด ทั้งของเหลว ของแห้ง ครีม หรือ แม้กระทั่งสินค้าที่เป็นผง สามารถใช้ซีลกับถุงได้ทุกชนิดเช่น ถุงร้อน/ถุงเย็น/ถุงจีบข้าง ถุงซีลสูญญากาศ และถุงอื่นทั่วไปได้ เช่น ถุงฟอยด์ ถุงอลูมิเนียม ถุงคราฟท์ เพียงปรับโหมดให้เข้ากับการใช้งาน และ วัสดุถุง สามารถกำหนดความแรงในการดูดสูญญากาศ สําหรับอาหารบอบบาง สะดวกต่อการใช้งาน (กรณีไม่ต้องการให้มีการดูดสูญญากาศมากเกินไปจนผลิตภัณฑ์เสียหาย ช้ำ) เครื่องซีลสุญญากาศ อุตสาหกรรม สามารถใช้ร่วมกับ บล็อคซีลข้าว อะคริลิคได้ เพื่อซีลข้าวให้อยู่ในรูปทรงสี่เหลี่ยมที่สวยงาม ป้องกันมอด แมลงต่างๆ เหมาะกับโรงงาน และ ร้านอาหาร ที่ต้องการคงคุณภาพสินค้าไว้ สเปค ยี่ห้อ / รุ่น : VCE-26
VCE สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง แต่ควรมีการพักเครื่องบ้าง เพื่อเป็นการระบายความร้อนสะสมจากแถบซีล และเพื่อเป็นการถนอมเครื่องระยะยาว ข้อดี ✓ เครื่องvacuum ถูกออกแบบมาด้วยวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน อีกทั้งยังสามารถบำรุงรักษาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ✓ แถบซีลที่ทรงพลัง (Sealing line) หนาถึง 5 mm. ให้ความร้อนได้หลายระดับขึ้นอยู่กับชนิดและความหนาของถุงแต่ละประเภท สามารถใช้ซีลปิดปากถุง ถุงร้อน/ถุงเย็น และถุงอืิ่นทั่วไปได้ ✓ รองรับการใช้งานร่วมกับไฟบ้าน 220v ไม่จำเป็นต้องตัดต่อสายไฟ เพียงเสียบปลั๊กพร้อมใช้งานทันที ✓ แวคคั่มปั๊ม (Vacuum pump) ที่ทรงพลัง มั่นใจไปกับการดูดสูญญากาศ 100% การทำงานของเครื่องนี้จะทำให้เป็นสูญญากาศทั้งห้องดูด ✓ หน้าจอการใช้งานถูกออกแบบให้สามารถตั้งค่าได้หลากหลาย อิสระในการกำหนดความแน่นของสูญญากาศ และความร้อนของแถบซีล ✓ การใช้งานสุดง่าย เพียงแค่ตั้งค่าและกดฝาครอบใสลง เครื่องจะทำงานเองโดยอัตโนมัติ ข้อเสีย ✘ ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแวคคั่ม (Vacuum Pump) ทุกๆ 3 เดือน ราคาเพียง 15,500 บาท เครื่องซีลสุญญากาศ รุ่น VCE-30 เครื่องซีลสุญญากาศ เครื่อง Vacuum รุ่น VCE เป็นเครื่องซีลแบบห้องสูญญากาศรุ่นประหยัด จุดเด่นคือการซีลสูญญากาศ ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น สินค้าที่เป็นผง เป็นซอสเหลวต่างๆ สามารถซีลสินค้าให้คงรูปสวยงามเนื่องจาก การดูดสูญญากาศจะกระจายรอบทิศทาง ปั้มสูญญากาศ ทรงพลัง 780W ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ยี่ห้อ / รุ่น : VCE-30
VCE สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง แต่ควรมีการพักเครื่องบ้าง เพื่อเป็นการระบายความร้อนสะสมจากแถบซีล และเพื่อเป็นการถนอมเครื่องระยะยาว ข้อดี ✓ เครื่องvacuum ถูกออกแบบมาด้วยวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน อีกทั้งยังสามารถบำรุงรักษาได้ง่าย ✓ แถบซีลที่ทรงพลัง (Sealing line) หนาถึง 5 mm. ให้ความร้อนได้หลายระดับขึ้นอยู่กับชนิดและความหนาของถุงแต่ละประเภท สามารถใช้ซีลปิดปากถุง ถุงร้อน/ถุงเย็น และถุงอื่นทั่วไปได้ ✓ รองรับการใช้งานร่วมกับไฟบ้าน 220v ไม่จำเป็นต้องตัดต่อสายไฟ เพียงเสียบปลั๊กพร้อมใช้งานทันที ✓ แวคคั่มปั๊ม (Vacuum pump) ที่ทรงพลัง มั่นใจไปกับการดูดสูญญากาศ 100% การทำงานของเครื่องนี้จะทำให้เป็นสูญญากาศทั้งห้องดูด ✓ หน้าจอการใช้งานถูกออกแบบให้สามารถตั้งค่าได้หลากหลาย อิสระในการกำหนดความแน่นของสูญญากาศ และความร้อนของแถบซีล ✓ การใช้งานสุดง่าย เพียงแค่ตั้งค่าและกดฝาครอบใสลง เครื่องจะทำงานเองโดยอัตโนมัติ ข้อเสีย ✘ ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแวคคั่ม (Vacuum Pump) ทุกๆ 3 เดือน ราคาเพียง 17,500 บาท เครื่องซีลสูญญากาศ รุ่น VCE-40เครื่องซีลสุญญากาศ เครื่อง Vacuum รุ่น VCE เป็นเครื่องซีลแบบห้องสูญญากาศรุ่นประหยัด จุดเด่นคือการซีลสูญญากาศ ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น สินค้าที่เป็นผง เป็นซอสเหลวต่างๆ สามารถซีลสินค้าให้คงรูปสวยงามเนื่องจาก การดูดสูญญากาศจะกระจายรอบทิศทาง ปั้มสูญญากาศ ทรงพลัง 780W ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ยี่ห้อ / รุ่น : VCE-40
VCE สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง แต่ควรมีการพักเครื่องบ้าง เพื่อเป็นการระบายความร้อนสะสมจากแถบซีล และเพื่อเป็นการถนอมเครื่องระยะยาว ข้อดี ✓ เครื่องvacuum ถูกออกแบบมาด้วยวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน อีกทั้งยังสามารถบำรุงรักษาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ✓ แถบซีลที่ทรงพลัง (Sealing line) หนาถึง 5 mm. ให้ความร้อนได้หลายระดับขึ้นอยู่กับชนิดและความหนาของถุงแต่ละประเภท สามารถใช้ซีลปิดปากถุง ถุงร้อน/ถุงเย็น และถุงอืิ่นทั่วไปได้ ✓ รองรับการใช้งานร่วมกับไฟบ้าน 220v ไม่จำเป็นต้องตัดต่อสายไฟ เพียงเสียบปลั๊กพร้อมใช้งานทันที ✓ แวคคั่มปั๊ม (Vacuum pump) ที่ทรงพลัง มั่นใจไปกับการดูดสูญญากาศ 100% การทำงานของเครื่องนี้จะทำให้เป็นสูญญากาศทั้งห้องดูด ✓ หน้าจอการใช้งานถูกออกแบบให้สามารถตั้งค่าได้หลากหลาย อิสระในการกำหนดความแน่นของสูญญากาศ และความร้อนของแถบซีล ✓ การใช้งานสุดง่าย เพียงแค่ตั้งค่าและกดฝาครอบใสลง เครื่องจะทำงานเองโดยอัตโนมัติ ข้อเสีย ✘ ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแวคคั่ม (Vacuum Pump) ทุกๆ 3 เดือน ราคาเพียง 19,500 บาท เครื่องซีนสูญญากาศ รุ่น VCC02 เครื่องซีลสูญญากาศ เครื่อง vacuum VCC02 เป็นเครื่องซีลแบบห้องสูญญากาศ ที่สุดในการซีลสูญญากาศของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดดเด่นในเรื่อง การซีล สินค้าที่เป็นผง เป็นซอสของเหลวต่างๆ สามารถซีลสินค้าให้คงรูปสวยงามได้มากขึ้น เนื่องจาก การดูดสูญญากาศจะกระจายรอบทิศทาง เหมาะอย่างยิ่งกับธุรกิจ SME
ยี่ห้อ / รุ่น : VCC02
ข้อดี ✓ ประกันสูงสุด FREE นานถึง 1 ปีเต็ม| ✓ แถบซีลหนาถึง 8 มิลลิเมตร มั่นใจ ไม่มีอากาศเข้าใน หรือ ไหลออก แต่อย่างใด ✓ รองรับการใช้งานร่วมกับไฟบ้าน 220v ไม่จำเป็นต้องตัดต่อสายไฟ เพียงเสียบปลั๊กพร้อมใช้งานทันที ✓ แวคคั่มปั๊ม (Vacuum pump) ที่ทรงพลัง มั่นใจไปกับการดูดสูญญากาศ 100% การทำงานของเครื่องนี้จะทำให้เป็นสูญญากาศทั้งห้องดูด ✓ สามารถกำหนดความแรงในการดูดสูญญากาศ สําหรับอาหารบอบบาง สะดวกต่อการใช้งาน (กรณีไม่ต้องการให้มีการดูดสูญญากาศมากเกินไปจนผลิตภัณฑ์เสียหาย ช้ำ) ✓ การใช้งานสุดง่าย เพียงแค่ตั้งค่าและกดฝาครอบใสลง เครื่องจะทำงานเองโดยอัตโนมัติ ข้อเสีย ✘ ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแวคคั่ม (Vacuum Pump) ทุกๆ 3 เดือน ✘ ควรทำความสะอาดตัวเครื่อง และ ภายในห้องซีล ทุกครั้งหลังการใช้งาน เนื่องจากหากเครื่องสกปรกอาจจะทำให้แผงวงจรช็อตหรือมีอะไรอุดตันได้ ราคาเพียง 24,500 บาท |
นักเขียนWriter Neng Yu Archives
November 2022
Categories
All
|