สแตนเลส หากลองมองดู รอบๆ ตัวเราในปัจจุบัน จะเห็นว่า อุปกรณ์เครื่องครัว (Kitchenware) เครื่องใช้ และภาชนะต่าง ๆ ที่เราใช้กันอยู่นั้นมักทำมาจากสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นส่วนใหญ่ ด้วยคุณสมบัติ ที่มีความแข็งแรง ทนต่อการใช้งาน ไม่แตกหักง่ายเหมือนแก้ว หรือกระเบื้อง ทั้ง หม้อ กระทะ แก้วน้ำ จานชาม หรือแม้แต่ ช้อนส้อม ที่เราต้องนำเข้าปากกันในทุกๆ วัน แล้วเราจะมั่นใจได้หรือว่า สแตนเลสที่นำมาใช้นั้น เป็นสแตนเลสเกรดอาหาร (Stainless Food Grade) ที่ปลอดภัยต่อการบริโภคจริง ๆ ซึ่งวันนี้จะพามาทำความรู้จักกับ สแตนเลส304 (Stainless 304) ที่เราใช้การทำอาหารกัน ในแบบภาษาชาวบ้านๆ ที่ใครอ่าน ก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยากและยังสามารถนำไปใช้ ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ อุปกรณ์เครื่องครัว ไปจนถึงเครื่องแปรรูปอาหาร วัตถุดิบต่างๆ ในท้องตลาดได้อีกด้วย สแตนเลส 304 คืออะไร“สเตนเลส 304 ” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ “เหล็กกล้าไร้สนิม” เป็น ศัพท์ทั่วไปที่ใช้เรียกเหล็กใน กลุ่มที่มีความต้าน ทานการกัดกร่อนสูง สเตนเลสเป็นโลหะผสมระหว่างเหล็กและคาร์บอน ซึ่งส่วนประกอบจะมีปริมาณคาร์บอนต่ำ มีโครเมียม เป็นส่วนผสมหลัก ประมาณ 10.5 % หรือมากกว่าทำให้เกิดการสร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ (chromium oxide film : CrO2 หรือเรียกว่า passive film) ที่มองไม่เห็นเกาะติด แน่นอยู่ที่ผิวหน้าทำให้เหล็กกล้า มีความต้านทานการกัดกร่อน ฟิลม์ปกป้อง นี้จะมีความบางเทียบเท่ากับวางกระดาษ 1 แผ่นบนตึกสูง 20 ชั้น ถ้าฟิล์มที่ผิวหน้านั้น ถูกทำลายไม่ว่าจากแรงกล สารเคมี หรือออกซิเจนที่มีอยู่ในบรรยากาศ แม้จำนวนน้อยนิดจะเข้าทำปฏิกิริยากับโครเมียม สร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ทดแทน ขึ้น ใหม่ด้วยตัวมันเอง คุณสมบัติของสแตนเลส 304ถือว่าเป็นเกรดของสแตนเลสที่เหมาะสม สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการใช้ประโยชน์ในงานผลิตเครื่องครัว ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน แข็งแกร่ง ทำความสะอาดง่าย ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร คุณสมบัติของสแตนเลส 304 ประกอบไปด้วย ธาตุเหล็ก คาร์บอน โครเมี่ยม และนิกเกิล เรามักจะเห็นตัวเลขกลุ่มหนึ่งปรากฏต่อท้ายชื่อสแตนเลส เช่น 18-8 หรือ 18-10 ซึ่งทั้งสองชนิดนี้ เป็นสแตนเลสในซีรี่ของ 304 เหมือนกัน ตัวเลขดังกล่าว เป็นตัวเลขที่บอกอัตราส่วนของธาตุโครเมี่ยมและธาตุนิกเกิล ซึ่งมีความสำคัญในการสร้างคุณสมบัติพิเศษในเนื้อสแตนเลส เหล็กเป็นส่วนผสมหลักในสแตนเลส มีองค์ประกอบอยู่มากกว่า 50 % ส่วนคาร์บอน มีอยู่ประมาณ 0.8% เพื่อช่วยให้เนื้อโลหะมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น
โครเมี่ยม เป็นตัวจับกับออกซิเจนในอากาศและในความชื้น ทำให้เกิดเป็นชั้นฟิล์มบางๆเคลือบผิวของแสตนเลส ช่วยป้องกันพื้นผิวไม่ให้เกิดการกัดกร่อน สึกหรอ นอกจากนี้ มันยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชิ้นงานอีกด้วย เมื่อเรามีการขัดถู ทำให้ชั้นฟิล์มนั้นเสียหายไป ปฏิกิริยาดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นใหม่แบบไม่รู้จบ เราจึงยกให้เครื่องครัวสแตนเลส 304 เป็นประเภทของเครื่องครัวที่ยิงใช้ยิ่งแกร่ง ในส่วนของนิกเกิล ซึ่งทำหน้าที่หลักทางเคมี คือการช่วยให้โลหะสแตนเลสมีความเสถียรมากขึ้น ไม่ทำปฏิกิริยากับสารใดใด และยังช่วยให้เครื่องครัวแสตนเลสเกิดความเงางามน่าใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ในแสตนเลส 304 ชนิด 18-10 ซึ่งเป็นงานสแตนเลสที่มีความเงากว่า 18-8 จึงนิยมใช้ในการทำช้อน ส้อม และมีดนั่นเอง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราควรรู้ ก่อนที่จะเลือกใช้เครื่องครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อดี ข้อเสียของหม้ออลูมิเนียม กับ สแตนเลส และเรายังต้องรู้ให้ลึกถึง คุณสมบัติของสแตนเลส 304 เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้งานแสตนเลสได้อย่างเหมาะสมกับงาน เพื่อความคุ้มค่า และความปลอดภัยของผู้ใช้งานทุกคน รวมถึงคนในครอบครัวที่เรารักอีกด้วย
0 Comments
Leave a Reply. |
นักเขียนWriter Neng Yu Archives
November 2022
Categories
All
|